* บทความมีการเปิดเผยเนื้อหารายการ
ใครที่เปิดดู Netflix ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา นอกจากซีรีส์เรื่อง Lupin ที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นอันดับ 1 เชื่อว่าในฟีดแอ็กเคานต์หลายคนต้องมีแนะนำรายการเรียลิตี้โชว์ใหม่แกะกล่องอย่าง Bling Empire ซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก กับเนื้อหาที่เหมือนถอดแบบมาจากภาพยนตร์ Crazy Rich Asians เลยทีเดียว
Bling Empire เป็นเรียลิตี้โชว์ 8 ตอน ที่เล่าเรื่องราวกลุ่มเพื่อนเศรษฐีเชื้อสายเอเชียในลอสแอนเจลิส ซึ่งมีตั้งแต่ Christine Chiu ภรรยาหมอศัลยกรรมชื่อดัง Gabrielle Chu ที่ต้นตระกูลมาจากราชวงศ์ซ่งของประเทศจีน, Kane Lim ทายาทธุรกิจน้ำมันและอสังหาริมทรัพย์จากสิงคโปร์, Jamie Xie ลูกสาวนักธุรกิจพันล้านที่คุณพ่อทำงานที่ซิลิคอนแวลลีย์, Kim Lee ดีเจสาวชื่อดังชาวเวียดนาม, Guy Tang นักร้องและช่างทำสีผมชื่อดัง, Cherin Chan และ Jesse Lee คู่รักที่มาจากตระกูลทำธุรกิจเสื้อผ้าเดนิมและเฟอร์นิเจอร์, Kelly Mi Li โปรดิวเซอร์หนังที่คบหากับนักแสดงหนุ่ม Andrew Grey ที่เคยเล่นเรื่อง Power Rangers, Anna Shay ผู้หญิงลูกครึ่งญี่ปุ่น-รัสเซีย ที่คุณพ่อเป็นเศรษฐีขายอาวุธด้านการป้องกันประเทศ และปิดท้ายด้วย Kevin Kreider นายแบบชาวเกาหลีที่เป็นลูกบุญธรรมของชาวอเมริกัน ที่ได้ย้ายมาอยู่ลอสแอนเจลิสได้ 1 ปี และถึงแม้เขาจะเกิดมาจากฐานะปานกลาง แต่ก็ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของก๊วนเศรษฐีนี้
แน่นอนแต่ละคนในเรื่อง Bling Empire มีคฤหาสน์หรูพันล้านอยู่ในย่านเบเวอร์ลีฮิลส์, มาลิบู หรือ เบลแอร์ มีรถ Bentley ขับกันทุกคน และนิยมใส่เสื้อผ้ากูตูร์สั่งตัด พร้อมเครื่องประดับชั้นสูงที่แต่ละเส้นสามารถดาวน์บ้านได้ 8 หลัง โดยในทุกตอนเราก็จะได้เห็นปาร์ตี้และกิจกรรมรวมตัวกันที่เวอร์วังสุดๆ อาทิ การเปิดส่วนหนึ่งของย่านโรดีโอไดรฟ์เพื่อฉลองตรุษจีน, Anna พา Kelly บินไปฉลองวันเกิดที่ปารีส และงานปาร์ตี้วันเกิดครบรอบ 1 ขวบของลูกชาย Christine และ Gabrielle ที่มีตู้คีบกระเป๋า Gucci เป็นต้น
แต่ในขณะเดียวกัน หากมองลึกลงไป และไม่ได้ตีค่าแค่เปลือกนอกของรายการที่เน้นสร้างความบันเทิงและดราม่าเสียส่วนใหญ่เหมือนรายการเรียลิตี้โชว์สไตล์นี้ เราก็ต้องชื่นชมว่า Bling Empire ยังพยายามแทรกเรื่องราววัฒนธรรมชาวเอเชียอย่างสม่ำเสมอ เช่นการที่ Christine พูดถึงความกดดันจากฝ่ายครอบครัวสามีที่ต้องการให้เธอมีลูกชายเพื่อสืบทอดตระกูล, Kane พูดถึงเรื่องราวศาสนาพุทธ หรือในหลายซีนก็ไม่ได้โชว์การรับประทานอาหารฝรั่ง แต่เป็นอาหารจีนเป็นหลัก ซึ่งเป็นดีเทลที่ดี และทำให้เห็นว่าแม้ทุกคนจะแต่งตัวตาม Kris Jenner และ Paris Hilton ที่เน้นแบรนด์ Dolce & Gabbana, Chanel, Versace และรองเท้า Christian Louboutin แต่ก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาลืมรากฐานตัวเองไปหมด
ความน่าสนใจของรายการ Bling Empire คือมาในช่วงเวลาพร้อมกันที่ทางค่ายคู่แข่ง HBO Max มีรายการ House of Ho ที่ติดตามครอบครัวเศรษฐีจากเวียดนาม ซึ่งต้องขอบคุณอิทธิพลของภาพยนตร์ Crazy Rich Asians ที่ทำให้ฮอลลีวูดยอมให้ชาวเอเชียมามีบทนำ แทนที่จะเป็นได้แค่ตัวประกอบกับอาชีพเปิดร้านอาหารอยู่ Chinatown ซึ่งสำหรับ Netflix เอง เราก็ได้เห็นทางแพลตฟอร์มเริ่มลงทุนและผลิตรายการเรียลิตี้โชว์แนวนี้มากยิ่งขึ้น หลังประสบความสำเร็จกับ Selling Sunset ซึ่ง Bling Empire เองก็ได้ Jeff Jenkins หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังรายการ Keeping Up With the Kardashians มาช่วยผลิต ซึ่งเชื่อได้ว่าน่าจะมีซีซัน 2 อย่างแน่นอน และเราก็หวังลึกๆ ว่าจะมีสมาชิกใหม่มาร่วมทีมที่เป็นลูกเศรษฐีมาจากประเทศไทย ซึ่งก็ถือว่ามีตัวเลือกไม่น้อยเลยทีเดียว และพร้อมจะบินไปถ่ายด้วยทันทีหากได้โอกาส
ภาพ: Netflix
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: