วันนี้ (16 มกราคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงคมนาคมออกหนังสือเผยแพร่ข่าวกระทรวงคมนาคม เรื่อง
‘กระทรวงคมนาคมเรียกร้องขอให้กรุงเทพมหานครชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวจนกว่าจะได้ข้อยุติในข้อเท็จจริง เพื่อมิให้เป็นภาระของประชาชน’
ตามที่กรุงเทพมหานครได้มีประกาศเพื่อปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงวันที่ 15 มกราคม 2564 โดยมีสาระสำคัญในการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวสูงสุดถึง 104 บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นการกำหนดอัตราค่าโดยสารที่เป็นภาระค่าเดินทางแก่ประชาชน โดยขาดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ในคราวที่เห็นชอบการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์สายสีเขียว ส่วนต่อขยายระหว่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กับ กรุงเทพมหานคร ที่ได้กำหนดให้กระทรวงคมนาคมบูรณาการร่วมกับกรุงเทพมหานครในการกำหนดอัตราแรกเข้า อัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรมและไม่เป็นภาระแก่ประชาชนนั้น
กระทรวงคมนาคมจึงขอเรียกร้องให้กรุงเทพมหานครชะลอการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารสายสีเขียวดังกล่าว จนกว่าจะมีการพิจารณาร่วมกันระหว่างทุกฝ่าย และหาหนทางอันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการ บริหารจัดการ ที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชนผู้ใช้บริการ
ทั้งนี้ในเรื่องของการปรับแก้ไขสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวตามที่กรุงเทพมหานครได้พิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรี ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้มีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานคร เพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลการศึกษาของโครงการ แนวทางการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ต้นทุนของโครงการ และเอกสารอื่นๆ เพื่อนำมาศึกษา และให้ความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เกิดการลดอัตราค่าโดยสารสูงสุดจาก 65 บาท ที่กรุงเทพมหานครเสนอ ใช้เป็นฐานถึงปี พ.ศ. 2602 (38 ปี) ลงเหลือไม่เกินอัตราแนวทางที่ระบบรถไฟฟ้าสายอื่นๆในสังกัดกระทรวงคมนาคมกำหนดใช้ เช่น สีน้ำเงิน สีชมพู สีเหลือง สีม่วง ที่ไม่เกินอัตราสูงสุดที่ 42 บาท แต่กระทรวงคมนาคมยังไม่ได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้องดังกล่าวเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายจะได้ร่วมมือกัน เพื่อช่วยกันลดอัตราค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวของบีทีเอสยังไม่ได้รับการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เนื่องจากกระทรวงคมนาคมไม่เห็นด้วยกับอัตราค่าโดยสารสูงสุด 65 บาทที่กรุงเทพมหานครและบีทีเอสเสนอ เพราะเมื่อเทียบกับอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆ มีอัตราสูงสุดอยู่ที่ 42 บาทเท่านั้น ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครก็ยังไม่ส่งเอกสารผลการศึกษาของโครงการและแนวทางการกำหนดอัตราค่าโดยสารไปให้กระทรวงคมนาคมว่าเหตุใดรถไฟฟ้าสายสีเขียวถึงได้มีอัตราค่าโดยสารสูงกว่ารถไฟฟ้าสายสีอื่นๆ
ขณะที่ฝ่ายกรุงเทพมหานครชี้แจงว่า มีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับเอกชนผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเป็นภาระหนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อการเจรจาจัดทำราคา 65 บาทตลอดสายยังไม่ได้ข้อสรุป จึงจำเป็นต้องปรับค่าโดยสารใหม่ โดยแบ่งเป็น 4 ช่วง รวมแล้วผู้โดยสารที่นั่งตลอดสายจะเสียค่าโดยสารไม่เกิน 104 บาท ดังนี้
- ช่วงสัมปทานของบีทีเอส (หมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน) ค่าโดยสาร 16-44 บาท
- ส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต ค่าโดยสาร 15-45 บาท (ปรับเพิ่มขึ้นสถานีละ 3 บาท)
- ส่วนต่อขยายอ่อนนุช-เคหะสมุทรปราการ 15-45 บาท (ปรับเพิ่มขึ้นสถานีละ 3 บาท)
- ส่วนต่อขยายสะพานตากสิน-บางหว้า 15-33 บาท (ปรับเพิ่มขึ้นสถานีละ 3 บาท)
ทั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป และจะใช้เป็นการชั่วคราว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า