Under The Crown หรือ นางงามกับการเมือง คือสารคดีขนาดสั้นความยาว 15 นาทีครึ่ง ผลงานการกำกับของ น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ Miss Universe Thailand 2016 ที่เพิ่งปล่อยให้สาธารณชนได้รับชมแล้วผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอ กลายมาเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่น่าสนใจและควรรับชม เพราะนี่เป็นการนำประเด็นทางสังคมที่เกิดขึ้นในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมามาบอกเล่าความรู้สึก ทัศนคติ ปัญหา และเหตุผล พร้อมส่งเสียงดังๆ ไปถึงสื่อและบุคลากรในวงการบันเทิงอีกด้วย
หลังจากที่ปล่อยสารคดี Under The Crown นางงามกับการเมือง ออกมา ซึ่งเป็นสารคดีที่ น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ รับหน้าที่กำกับเป็นครั้งแรก ซึ่งเธอได้จำกัดความเรื่องราวที่อยากนำเสนอนี้ไว้ว่า แม้คำว่านางงามมันมีอะไรมากมายอย่างที่คนหลายคนคาดหวัง แต่สุดท้ายแล้วพวกเธอก็เป็นเพียงคนหนึ่งคนที่ต้องรักษาสิทธิของตัวเองภายใต้คำว่าบุคคลสาธารณะ ฉะนั้นเราจึงได้เห็นและได้ฟังเรื่องราวของพวกเธอจากทั้งประสบการณ์ตรงและในหลายๆ มิติที่พวกเธออยากเล่า
3 นางงามที่มานั่งเก้าอี้เล่าเรื่องในสารคดีนี้ก็มีทั้ง มารีญา พูลเลิศลาภ Miss Universe Thailand 2017, น้ำ-พัชรพร จันทรประดิษฐ์ Miss Grand Thailand 2020 และเฌอเอม-ชญาธนุส ศรทัตต์ หนึ่งในผู้เข้าประกวด Miss Universe Thailand 2020 ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องแบบนั่งสัมภาษณ์และตัดสลับกับฟุตเทจอื่นๆ ไปมาในเส้นเรื่องเล่าเดียวกัน เริ่มต้นง่ายๆ จากการเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นรอบตัวของพวกเธอเอง ทั้งเรื่องสายไฟบนท้องถนน รถเมล์ ชีวิตที่ต้องพบเจอกับปัญหาในการใช้ชีวิตในท้องถิ่น ใหญ่โตไปจนถึงสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก การพูดเรื่องการเมืองของคนบันเทิง เป็นต้น
ในสารคดีเรื่องนี้มีหัวเรื่องที่น่าสนใจอยู่ นั่นคือการพูดถึงสถานการณ์ทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมา ที่พวกเธออยากเน้นย้ำเรื่องความเท่าเทียมกันของมนุษย์ การให้เกียรติและเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งหนึ่งในประเด็นดังกล่าวคือการพูดถึงอดีตของการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงจากความคิดเห็นของเฌอเอม เธอให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาว่าเธอเองก็เคยโง่เขลา และโดนวาทกรรมบางอย่างจากบุคคลในวงการบันเทิงและสื่อไทยหลอกลวงจนลดทอนความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นไป และเธอจึงอยากใช้เสียงที่เธอมีตอนนี้ทดแทนหลายๆ สิ่งที่สูญเสียไปให้ได้มากที่สุด
และรสชาติของการนำเสนอภาพดังกล่าว ผู้กำกับเองก็ทำออกมาได้อย่างสนใจ โดยในขณะที่กำลังพูดถึงการพูดเรื่องการเมืองของคนในวงการบันเทิง น้ำตาลเลือกใช้ภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับคนเสื้อแดงพร้อมใส่บทสนทนาบนเวที กปปส. ของนักแสดงหญิงในวงการที่ดูถูกดูแคลนความเป็นมนุษย์และลมหายใจของผู้อื่นเป็นเสียงประกอบ เพื่อยืนยันว่านี่คือเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริงๆ จากปากของคนในวงการบันเทิงเอง ชวนตั้งคำถามว่าทำไมความคิดเช่นนี้ถึงเป็นเรื่องที่รับได้?
ความน่าสนใจไม่ใช่แค่การพูดถึงเรื่องการเมือง แต่เรากำลังจะได้รับฟังเสียงของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนางงามที่ออกมาพูดความคิดของตัวเอง กล่าวเหตุผลว่าทำไมพวกเธอถึงเลือกใช้เสียงของตัวเองในการพูดเรื่องราวเหล่านี้ และบทสัมภาษณ์ที่ชวนให้คิดว่า ‘ทำไมคนในวงการบันเทิงถึงไม่กล้าออกมาพูดความคิดเห็นของตัวเอง’ ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างเป็นคีย์หลักของสารคดีเรื่องนี้ที่อยากให้ทุกคนได้ฟัง
ว่าการที่คนในวงการบันเทิงจะมีความรู้สึกว่า ‘ไม่อยากขัดใจ’ ผู้ชมที่เป็นแฟนๆ ของพวกเขา จึงไม่เลือกแสดงออกความคิดเห็นทางเรื่องการเมือง นั่นหมายถึงการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ในตัวเอง และทิ้งให้ชื่อเสียงกลายเป็นแค่เครื่องมือทำมาหากินเท่านั้นหรือไม่ เป็นคำถามที่พวกเธอทิ้งไว้ให้เราขบคิดกัน
ไม่น่าเชื่อว่า น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ จะลุกขึ้นมาทำสารคดีเรื่อง Under The Crown นางงามกับการเมือง นี้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่ใช้สัมภาษณ์ที่ค่อนข้างแข็งแรง รวมถึง 3 นางงามทั้ง น้ำ, มารีญา และเฌอเอม ก็ต่างสร้างบทสนทนาที่ดีออกมาได้อย่างน่าชื่นชมจากมุมมองของบุคคลสาธารณะ และประเด็นในเรื่องเองก็แตะต้องไปถึงทุกๆ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบอบประชาธิปไตยและความเป็นอยู่ของประชาชนได้อย่างเข้าใจง่าย ไม่ยากเกินไป
Under The Crown นางงามกับการเมือง ทำให้ได้เห็นภาพซ้อนทับกันของบุคคลที่ให้สัมภาษณ์อยู่เสมอตลอดระยะเวลา 15 นาทีเกือบครึ่งนี้ และขณะกำลังนั่งชมอยู่ เราพบว่าภาพซ้อนทับดังกล่าว หนึ่ง คือนางงามที่กำลังใช้เสียงตัวเองขับเคลื่อนสังคม กับสอง คือมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งที่กำลังต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิต และถามหาความถูกต้องในสังคมในเวลาเดียวกัน
รับชมสารคดี Under The Crown นางงามกับการเมือง ได้ที่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์