CNN รายงานอ้างแหล่งข่าวในทำเนียบขาวว่า ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้บอกกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งว่า เขาไม่มีอำนาจที่จะขัดขวางการรับรองชัยชนะของ โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ได้
แหล่งข่าวเผยว่า เพนซ์กล่าวต่อทรัมป์อย่าง ‘อ่อนโยน’ ระหว่างการประชุมว่า ไม่มีอำนาจใดที่เขาจะใช้เพื่อยับยั้งกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้ไบเดนได้
บทสนทนาระหว่างเพนซ์และทรัมป์มีขึ้นภายหลังรองประธานาธิบดีได้หารือกับสมาชิกวุฒิสภาเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงบทบาทของเขาระหว่างการประชุมสภาคองเกรสที่กำลังจะมีขึ้นในวันนี้ (6 มกราคม) เพื่อลงมติรับรองผลการลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) และประกาศให้ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป
แม้จะมีคนจำนวนหนึ่งพยายามพร่ำบอกว่า รองประธานาธิบดีมีอำนาจขัดขวางการลงมติรับรองในสภาคองเกรส แต่เพนซ์ชี้แจงกับทรัมป์ว่า สำนักกฎหมายประจำทำเนียบขาวยืนกรานกับเขาแล้วว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่มีอำนาจดังกล่าว
หนังสือพิมพ์ New York Times เป็นสื่อแรกที่รายงานข่าวล่าสุดนี้ ซึ่งทรัมป์ออกมาตอบโต้ด้วยแถลงการณ์ผ่านทีมหาเสียงของเขาว่า “นี่เป็นข่าวปลอม เพนซ์ไม่เคยพูดอะไรแบบนั้น รองประธานาธิบดีและผมเห็นพ้องต้องกันว่ารองประธานาธิบดีไม่มีอำนาจที่จะกระทำเช่นนั้นได้”
แถลงการณ์ของทรัมป์ขัดแย้งกับสิ่งที่แหล่งข่าวบอกกับ CNN ว่า ตอนนี้ทรัมป์โกรธเพนซ์มาก ถึงขั้นอาจจะเอาเพนซ์ไป ‘ด่าทอ’ ระหว่างการปราศรัยต่อผู้สนับสนุนที่จะมีขึ้นในวันนี้ใกล้กับทำเนียบขาว ซึ่งเป็นการรณรงค์เพื่อหวังพลิกผลการเลือกตั้ง
การพบปะผู้สนับสนุนของทรัมป์จะมีขึ้นคู่ขนานไปกับการประชุมสภาคองเกรสที่เพนซ์จะทำหน้าที่ประธานการประชุมรับรองผลการลงคะแนน Electoral College
แหล่งข่าวของ CNN บอกต่อว่า เพนซ์จะไม่ทำหน้าที่เหมือนแค่ ‘ไม้ประดับ’ เพราะเขาอาจขึ้นปราศรัยต่อสภา เพื่อสนับสนุนความพยายามของทรัมป์เพื่อคัดค้านผลการลงคะแนน แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริตเลือกตั้ง
นอกจากบทสนทนาดังกล่าวแล้ว CNN รายงานว่า มีอีกหลายสัญญาณที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มแตกร้าวระหว่างเพนซ์และทรัมป์ รวมถึงการที่เพนซ์ไม่ได้ร่วมติดตามผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารัฐจอร์เจียรอบ Run Off ในทำเนียบขาวกับทรัมป์ด้วย
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ที่ปรึกษาของทรัมป์พูดว่า เพนซ์คงไม่กระทำการใดที่นอกเหนือบทบาทตามรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยให้ทรัมป์มีแต้มต่อมากขึ้น อันที่จริงแม้รองประธานาธิบดีอยากจะทำ “แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์จะทำเช่นนั้นได้”
“เพนซ์อาจพูดว่าเขาไม่มีอำนาจจะทำเช่นนั้น” และอธิบายว่า เขาทำได้เพียงถ่ายทอดความรู้สึกของทรัมป์ต่อสภาคองเกรสเท่านั้น
โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามสร้างทัศนคติต่อสังคมอเมริกันว่า รองประธานาธิบดี ‘ผู้จงรักภักดี’ สามารถชะลอหรือขัดขวางการรับรองผลการลงคะแนนของ Electoral College ได้ ดังนั้นสิ่งที่เพนซ์จะทำในการประชุมสภาคองเกรส จึงเหมือน ‘บททดสอบความจงรักภักดี’ ต่อ 4 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งในรัฐบาลทรัมป์
ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ (5 มกราคม) ว่า “ผมหวังว่า ไมค์ เพนซ์ จะไม่ทำให้เราผิดหวัง ผมบอกคุณได้เลย” และ “แน่นอนว่าถ้าเพนซ์ไม่ทำตามที่เราคาดหวัง ผมก็จะไม่ชอบเขาเท่าเดิมแล้ว”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: