ดูเหมือนสถานการณ์ของทีม ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอล นอกจากจะไม่กระเตื้องขึ้นจากเดิมแล้ว ยังเลวร้ายลงไปยิ่งกว่าเดิมอีกต่างหาก เมื่อสิ่งที่แฟนบอลชาวกูนเนอร์ 2,000 คนที่ได้กลับเข้าสู่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม ได้เห็นคือฟอร์มการเล่นอันเลวร้าย การทำเข้าประตูตัวเองของศูนย์หน้าเบอร์หนึ่ง ใบแดงที่งี่เง่า และความพ่ายแพ้ที่ทำใจยอมรับได้ยาก
นอกจากที่อาร์เซนอลจะแพ้เบิร์นลีย์ในบ้านเป็นครั้งแรกในรอบ 10 นัด ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของพวกเขาในพรีเมียร์ลีกต่อคู่ปรับทีมนี้แล้ว พวกเขายังแพ้เป็นเกมที่ 7 ใน 10 นัดหลังสุดของลีก แพ้ในบ้านติดต่อกัน 4 นัด และทำให้อันดับอยู่ไกลถึงที่ 15 ในตารางคะแนน มีเพียงแค่ 13 คะแนน จากการลงสนาม 12 นัด
นี่คือการออกสตาร์ทที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1974/75 ในรอบ 45 ปีของสโมสรเลยทีเดียว
จุดเปลี่ยนที่สำคัญเกิดขึ้นจากใบแดงของ กรานิต ชากา ในนาทีที่ 58 ของเกม จากการไปบีบคอ แอชลีย์ เวสต์วูด ดาวเตะเบิร์นลีย์ ไม่สามารถคิดเป็นอื่นใดนอกจากเหตุการณ์ที่เขาเคยถูกแฟนโห่ใส่อย่างรุนแรงในเกมกับคริสตัล พาเลซ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมปีกลาย และนำไปสู่เหตุการณ์วุ่นวาย เมื่อดาวเตะชาวสวิสตอบโต้แฟนบอลอย่างเผ็ดร้อน
เหตุการณ์ในครั้งนั้นนำไปสู่การโดนปลดจากการเป็นกัปตันทีมของชากา และถูกคาดหมายว่าหมดอนาคตกับทีมรอโดนขายทิ้งสถานเดียว
แต่เมื่อ มิเกล อาร์เตตา เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม ชากาได้โอกาสในการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และกลับมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้น่าประทับใจแม้จะไม่มีปลอกแขนกัปตันทีมแล้วก็ตาม เพียงแต่ผลงานของเขาตกลงพร้อมกับทีม
การโดนใบแดงคราวนี้อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับชากาในทีม หรืออย่างน้อยสำหรับแฟนปืนใหญ่ เมื่ออาร์เตตามองว่าเลวร้ายเสียยิ่งกว่าใบแดงของ นิโกลาส์ เปเป กองหน้าสายสปีดที่โดนไล่ออกจากสนามในเกมที่พบกับลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยการเอาหัวไปโขกใส่คู่แข่งเสียอีก
“ก็ต้องพูดคำเดียวกับเหตุการณ์ของเปเปว่ามันยอมรับไม่ได้ และมันดูจะแย่กว่าด้วยซ้ำ ในเกมฟุตบอลไม่มีใครทำแบบนั้นได้ มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เพราะผู้เล่นจะมีช่วงเวลาที่พวกเขาต้องการที่จะทำให้ดีขึ้น สู้ให้หนักขึ้น และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพวกเขา แต่ในครั้งนี้ชากาล้ำเส้นไป และอีกเหตุการณ์ของโม (โมฮาเหม็ด เอลเนนี) ซึ่งผมไม่เห็น แต่ก็ดูเหมือนจะคล้ายกัน เราไม่สามารถจะพลาดแบบนั้นได้ เพราะมันเป็นการกระทำที่ผิดพลาด
“เราโยนเกมนี้ทิ้งไปด้วยใบแดงที่งี่เง่า และเราก็แพ้ ถ้าดูในเกมจะเห็นได้ว่าเราครองเกมอยู่ 60-70 และเราก็น่าจะเอาชนะเกมนี้ได้ก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ”
อย่างไรก็ดี ปัญหาของอาร์เซนอลนั้นมีหลายจุด ซึ่งอีกจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือฟอร์มของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ศูนย์หน้ากัปตันทีมที่กลับมาทำประตูได้อีกครั้ง
เพียงแต่ประตูนั้นไม่ใช่สำหรับอาร์เซนอล แต่เป็นสำหรับคู่แข่ง และยิ่งกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าเข้าไปอีก เพราะประตูแรกของโอบาเมยองในเอมิเรตส์ สเตเดียม ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (ย้ำในฤดูกาลนี้!) กลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเองเสียอย่างนั้น
อาการปืนฝืดของศูนย์หน้าชาวกาบองเป็นเครื่องสะท้อนถึงปัญหาหนักในเกมรุกของกันเนอร์ส ที่ยิ่งเวลาผ่านก็ยิ่งกลายเป็นทีมที่ตีบตันทางการเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา อาร์เซนอลทำได้เพียง 2 ประตูเท่านั้น หนึ่งลูกเป็นการโหม่งของ กาเบรียล มาร์กัลเยส และอีกหนึ่งลูกเป็นผลงานของโอบาเมยอง ซึ่งก็ไม่ได้มาจากการเล่นโอเพนเพลย์ แต่เป็นการยิงจุดโทษ
และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ โอบาเมยองไม่สามารถทำประตูจากการเล่นโอเพนเพลย์ได้ตั้งแต่นัดเปิดสนามของฤดูกาลนี้
จุดที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมากคือ แผนการเล่นที่อาร์เตตาพยายามเน้นการโจมตีทางริมเส้นเป็นหลัก
นอกจากโอบาเมยองแล้ว คนที่หนีการวิจารณ์ไม่พ้นด้วยเช่นกันคือ วิลเลียน ปีกชาวบราซิลที่เซ็นสัญญาฟรีหลังเป็นอิสระจากเชลซี โดย 2 นัดหลังสุดดาวเตะวัย 33 ปี เปิดบอลมากถึง 30 ครั้ง!
16 ครั้งในเกมกับสเปอร์ส และอีก 14 ครั้งในเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมากับเบิร์นลีย์ โดยไม่มีลูกเปิดลูกใดได้ผลเลย
และความจริงสูตรการบอมบ์จากริมเส้นที่ไร้จุดหมายของอาร์เซนอลในช่วงหลังโดยไม่มีการเข้าทำรูปแบบอื่นๆ ก็เริ่มทำให้เกิดคำถามกับ มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมชาวสเปนด้วย
โดยในวันที่ 20 ธันวาคมนี้เขาจะครบรอบ 1 ปีในการรับตำแหน่งนายใหญ่กันเนอร์สต่อจาก อูไน เอเมรี ซึ่งจากผลงานที่เกิดขึ้นทำให้เวลานี้แฟนของกันเนอร์สเองต้องกลับมาทบทวนตัวเองกันอีกครั้ง
ว่าตกลงแล้วทีมของพวกเขาเดินหน้าหรือถอยหลัง และอาร์เตตานั้นคือของจริงหรือของเทียมกันแน่?
ที่น่าวิตกคือถ้อยคำที่กุนซือคนหนุ่มตอบคำถามต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับผลงานการเล่นของทีม
“ผมมีคำตอบในใจว่ามีจุดไหนบ้างที่ทีมต้องทำให้ดีขึ้น แต่ผมไม่รู้ว่าจะหาวิธีทำให้ทีมส่งบอลเข้าไปก้นตาข่ายได้อย่างไร”
เป็นคำตอบที่ไม่มีคำตอบอยู่ในนั้น
และอาจเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่เสียงโห่ที่ดังขึ้นในช่วงสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายที่เอมิเรตส์ สเตเดียม จะกลับมาอีกครั้ง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/sport/football/55297437
- https://www.thetimes.co.uk/article/own-goal-and-granit-xhaka-red-card-add-up-to-new-low-for-mikel-arteta-as-arsenal-slump-to-defeat-bl9d5lsdl
- https://www.thetimes.co.uk/edition/sport/it-was-unacceptable-xhaka-sending-off-cost-us-the-game-says-arsenal-manager-mikel-arteta-mwrn2fdmw
- อาร์เซนอลแพ้คาบ้าน 4 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1959
- ใบแดงของ กรานิต ชากา ทำให้อาร์เซนอลของ มิเกล อาร์เตตา เป็นทีมที่โดนใบแดงมากกว่าทีมใดในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีม (6 ใบ มากกว่าทีมรองลงไปถึง 2 เท่า)
- นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับอาร์เซนอลในฤดูกาล 2016/17 ชากาสะสมใบเหลืองไป 37 ใบ กับใบแดงอีก 3 ใบ