เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ก่อน หนึ่งในประเด็นที่สร้างความฮือฮาในแวดวงฮอลลีวูดก็คือการตัดสินใจของค่ายหนัง Warner Bros. ที่จะปรับกลยุทธ์และนำโมเดลการจัดจำหน่ายภาพยนตร์แบบลูกผสม (Hybrid Distribution) กับทุกเรื่องที่มีกำหนดการเปิดตัวปี 2021 ซึ่งจะฉายทั้งในโรงภาพยนตร์และทางแพลตฟอร์มสตรีมมิง HBO Max พร้อมกันด้วย
แต่ล่าสุดผู้กำกับมือฉมังชาวอังกฤษอย่างคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ได้สร้างและกำกับภาพยนตร์มากมายให้ Warner Bros. อย่าง Dunkirk, Inception, Interstellar และ The Dark Knight ก็ได้ออกมาต่อว่าทางค่ายอย่างรุนแรงผ่านการสัมภาษณ์กับ ET Online พร้อมกล่าวว่า “มันเป็นกระแสที่ร้ายแรงมาก เพราะไม่มีคนรู้เลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่มั่วมากๆ มันเป็นรูปแบบการล่อหลอกคนดู นี่เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรทำกับคนทำภาพยนตร์และนักแสดงที่ได้ทุ่มเทให้กับโปรเจกต์พวกนี้ พวกเขาควรที่จะได้ปรึกษาและรับรู้ก่อนว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผลงานของพวกเขา
ในปี 2021 ทางค่ายมีทั้งคนทำหนังและนักแสดงที่เก่งสุดในโลก ซึ่งบางโปรเจกต์ พวกเขาได้ทำกันมาหลายปี และมีคุณค่าทางจิตใจว่าผลงานจะถูกฉายบนจอเงิน และจะสามารถได้รับชมโดยผู้ชมที่กว้างที่สุด แต่มาตอนนี้ผลงานพวกเขากลับถูกนำมาเป็นสิ่งชักจูงของบริการสตรีมมิงแบบไม่ได้มีการปรึกษากันก่อน” โนแลนได้กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับภาพยนตร์ค่าย Warner Bros. ที่จะถูกนำไปฉายทาง HBO Max ปีหน้าพร้อมกับในโรงหนังก็มี 17 เรื่อง ทั้ง Mortal Kombat, The Little Things, Tom and Jerry, The Many Saints of Newark, Reminiscence, Godzilla vs. Kong, The Conjuring: The Devil Made Me Do It, In the Heights, Space Jam: A New Legacy, The Suicide Squad, Elvis, King Richard, Judas and the Black Messiah, Malignant, Those Who Wish Me Dead, Dune และภาพยนตร์ภาคต่อ The Matrix 4 ส่วนในปีนี้ทางภาพยนตร์ Tenet ของโนแลน ก็ถูกวางให้เป็นโปรแกรมยักษ์ใหญ่ประจำปี แต่ก็โดนเลื่อนมาหลายรอบเพราะผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งในภายหลังหนังก็ยังสามารถทำเงินไปได้ 300 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก แต่ในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐฯ ก็กลับทำเงินไปได้แค่ 57 ล้านดอลลาร์
ภาพ: Kevork Djansezian/Getty Images for DGA
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
