แม้จะไม่ได้แวะไปเยือนแถวสาทรและสวนพลูบ่อยนัก แต่เราก็ทราบดีว่าช่วงที่ผ่านมาในย่านนี้มีร้านอาหารและบาร์ดีๆ เยอะขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้ง Loulou Forks & Glasses (ลูลู่ ฟอร์คส์ แอนด์ กลาสเซส) ซึ่งถือเป็นร้านอาหารน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว มาร์ก ลากวอต์ เจ้าของร้านนี้เป็นชาวฝรั่งเศสผู้อาศัยอยู่ในเมืองไทย ก่อนหน้าที่จะเปิดร้านแห่งนี้เขาเคยรับหน้าที่ดูแลห้องอาหาร Scarlett Wine Bar & Restaurant ที่โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี มาก่อน นอกจากนี้ยังเคยเปิดร้านอาหารมาหลายแห่งแล้วในต่างประเทศ มาร์กเปิดร้านลูลู่ฯ ขึ้นด้วยความรักที่มีต่อย่านสวนพลูซึ่งเขาและภรรยาอาศัยอยู่ โดยต้องการให้เป็นร้านสบายๆ บรรยากาศเป็นมิตรเหมือนนั่งกินข้าวอยู่บ้านเพื่อน

     และเมื่อได้ลองไปเยือนแล้ว เราขอบอกว่าชอบบรรยากาศในสวนบ้านเพื่อนชาว (ฝรั่งเศส) แห่งนี้ไม่น้อยเลย

 

 

The Vibes

     พื้นที่ของร้านแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ ที่นั่งเปิดโล่งบริเวณด้านหน้า เมื่อเปิดกระจกเข้าไปภายในร้านก็จะพบบรรยากาศค่อนข้างดิบด้วยโครงเหล็ก ผนังอิฐสีเทา โต๊ะไม้สีน้ำตาลเนื้อดี โคมไฟแก้วทรงกระสวยบนหลังคาบุผ้า บรรยากาศโดยรวมดูคล้ายกระโจมหรือโรงนา กระนั้นภาพเขียนที่นำมาติดก็ช่วยเพิ่มเติมชีวิตชีวาให้กับร้านได้มาก แต่โซนที่เราชอบและคิดว่าบรรยากาศผ่อนคลายน่านั่งมากจริงๆ คือบริเวณด้านหลังร้าน ซึ่งเป็นสวนเปิดโล่ง มีผนังอิฐสีส้ม กำแพงไม้ไผ่ กับต้นไม้สีเขียวช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น มีชีวิตชีวา การจัดไฟสีเหลืองแซมด้วยแสงสลัวจากเทียนยิ่งทำให้บรรยากาศยามตะวันลับฟ้าอบอุ่นเป็นกันเอง เหมาะแก่การชวนเพื่อนๆ มานั่งแฮงก์เอาต์คุยกันสบายๆ

 

 

The Dishes

     อาหารของที่นี่เป็นอาหารง่ายๆ แม้จะมีเพียงไม่กี่รายการ ทั้งนี้ก็เพราะเชฟซาเวียร์ โฟเวล ผู้ดูแลครัวของลูลู่ฯ ต้องการจะควบคุมคุณภาพและรสชาติของอาหารให้ดีที่สุด ทั้งยังเน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นให้มากที่สุดอีกด้วย อาหารจานแรกของ THE STANDARD ในวันนี้คือ Chiang Mai Stracciatella (430 บาท) สลัดผักสดกรอบปลอดสารพิษจากจังหวัดเชียงใหม่ โปะด้วยชีส Stracciatella สไตล์อิตาเลียนที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยของเรานี่เอง ความรู้สึกสดชื่นที่ได้จากชีสดังกล่าวทำให้เป็นพระเอกสำหรับจานนี้เลยทีเดียว

 

    

     จานต่อมาคือ Gravlax Salmon (380 บาท) แซลมอนรมควันคุณภาพเยี่ยม กินกับวาซาบิและเลมอนครีมช่วยเพิ่มรสชาติ ตามมาด้วย Egg Cocotte (280 บาท) ซุปครีมไข่ออร์แกนิกรสชาตินุ่มนวล เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังเหนียวนุ่มกำลังดี ตามติดมาด้วย Mixed Platter (550 บาท) ถาดโคลด์คัตผสมชีสหลากหลายที่เลือกสรรมาแล้ว ซึ่งดูจากจำนวนของสิ่งที่อยู่บนถาดและคุณภาพ เราว่าคุ้มราคามาก เหมาะสำหรับกินแกล้มการละเลียดจิบไวน์เป็นที่สุด ส่วนอาหารเด็ดจานหลักที่ลูลู่ฯ ภูมิใจนำเสนอคือ Côte de Bœuf (2,500 บาท) สเต๊กเนื้อชิ้นโตขนาด 1 กิโลกรัมที่ย่างมาแบบสุกกำลังดี ตัดแบ่งกันกินได้หลายคน

 

 

The Drinks

     ด้านเครื่องดื่ม ค็อกเทลลิสต์ของที่นี่มีเพียง 9 รายการในเมนูเท่านั้น อาทิ  *Aperol Spritz, Mojito, Bloody Mary, Magarita, Cosmopolitan ฯลฯ แม้จะไม่ได้มีให้เลือกมากมายนักเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ ในระดับเดียวกัน แต่คลาสสิกค็อกเทลทั้ง 9 แก้วของลูลู่ฯ ก็มีดีตรงที่ราคาเป็นมิตรต่อกระเป๋า ทุกแก้วราคาเพียง 230 บาท แม้จะยังไม่รวมเซอร์วิสชาร์จ 10 เปอร์เซ็นต์ และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7 เปอร์เซ็นต์ ก็ยังถือว่าราคาดีเมื่อเทียบกับร้านแถวสุขุมวิทหรือตามโรงแรม นอกจากนี้ยังมีสปิริตและลิสต์ไวน์ที่เลือกสรรมาแล้วในหลายช่วงราคาให้เลือกอีกด้วย แต่สำหรับคอเบียร์ที่ต้องการตัวเลือกหลากหลาย ร้านนี้อาจไม่ใช่สถานที่ที่คุณกำลังมองหา

 

 

What  Else You Should Know:

    – ชื่อของร้านลูลู่ ฟอร์กส์ แอนด์ กลาสเซส มาจากชื่อของ ลู (Lou) ซึ่งเป็นลูกสาวของมาร์ก ผู้เป็นเจ้าของร้าน นำมาตั้งเป็นชื่อของร้านอาหารที่เขาและภรรยาช่วยกันทำด้วยความรัก

    – งานศิลปะที่ตกแต่งอยู่ภายในร้านตอนนี้เป็นของศิลปินชาวฝรั่งเศสนาม  ‘Bilou’ (Christian Poggetti) และทางร้านจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวาระ หากสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับศิลปินและราคาได้จากทางร้าน