สมาชิกพรรครีพับลิกันออกมาประสานเสียงเตือนถึงความกังวลที่เกิดขึ้น หลังคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าแผนถอนกำลังทหารบางส่วนออกจากอัฟกานิสถานและอิรัก โดยก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมหรือเพนตากอนยืนยันว่าสหรัฐฯ จะลดจำนวนทหารอเมริกันในสองประเทศลง 2,500 คน
หนึ่งในนโยบายสำคัญที่ทรัมป์หาเสียงมาตลอดคือการนำทหารอเมริกันกลับบ้าน และเขาก็แสดงจุดยืนมาตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับบทบาทการแทรกแซงของทหารอเมริกันในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม มิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเตือนว่าแผนดังกล่าวอาจเป็น ‘ความผิดพลาด’
เขายังเตือนด้วยว่าประธานาธิบดีไม่ควรปรับเปลี่ยนนโยบายด้านกลาโหมและการต่างประเทศชนิดสร้างแรงกระเพื่อมต่อโลกก่อนที่จะก้าวลงจากตำแหน่งในทำเนียบขาว ขณะที่แผนถอนทหารดังกล่าวมีกำหนดดำเนินการ 5 วันก่อนที่ โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2021
สำหรับไบเดนนั้นเคยกล่าวไว้ว่าเขารู้สึก “เบื่อหน่ายกับสงครามที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์” ของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน แต่กระนั้นเขาแสดงจุดยืนว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องยุติสงครามอย่างรับผิดชอบ โดยต้องมั่นใจว่าสหรัฐฯ สามารถป้องกันภัยคุกคามที่มีต่อมาตุภูมิ และเมื่อถอนกำลังแล้วต้องแน่ใจว่าจะไม่หวนกลับไปอีก
ปัจจุบันสหรัฐฯ มีทหารประจำการในอิรักจำนวน 3,000 คน และจะลดลงเหลือ 2,500 คน ขณะที่ในอัฟกานิสถานมีทหารอเมริกันจำนวน 4,500 คน และจะลดลงเหลือประมาณ 2,500 คน
สหรัฐฯ ส่งทหารไปอัฟกานิสถานตั้งแต่ปี 2001 โดยมีภารกิจสำคัญคือการนำกองกำลังพันธมิตรต่อสู้กับกลุ่มตอลิบานและอัลกออิดะห์ หลังเหตุวินาศกรรม 9/11 ในสหรัฐฯ ซึ่งแม้ว่ากลุ่มติดอาวุธได้แตกพ่ายไปแล้ว แต่ต่อมาในปี 2018 ตอลิบานสามารถรวบรวมกำลังและทวีความเข้มแข็งขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะรุกคืบยึดเมืองต่างๆ คิดเป็นพื้นที่ 2 ใน 3 ของประเทศอัฟกานิสถาน
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ เริ่มถอนทหารบางส่วนออกจากอัฟกานิสถานตามข้อตกลงสันติภาพฉบับประวัติศาสตร์ที่ลงนามโดยสหรัฐฯ และกลุ่มติดอาวุธเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
ส่วนทหารอเมริกันหลายพันคนในอิรักนั้นมีภารกิจสำคัญคือการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ IS ร่วมกับกองกำลังพันธมิตรนานาชาติ
ด้าน คริส มิลเลอร์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่าการตัดสินใจดังกล่าวสะท้อนนโยบายของทรัมป์ที่ต้องการยุติสงครามในอัฟกานิสถานอย่างรับผิดชอบและนำทหารหาญกลับบ้าน
หลังการประกาศแผนไม่นาน มีจรวดหลายลูกยิงไปตกในกรีนโซน กรุงแบกแดด และพื้นที่ใกล้กับสถานทูตสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการโจมตีนับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธอิรักที่มีสายสัมพันธ์กับอิหร่านตกลงที่จะหยุดโจมตีเป้าหมายในเขตสถานทูตสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
นอกจากแม็กคอนเนลล์แล้ว สมาชิกอาวุโสของพรรครีพับลิกันคนอื่นๆ ก็แสดงความกังวลต่อแผนถอนหหารของทรัมป์เช่นกัน โดย แม็ก ทอมเบอร์รี ส.ส. รัฐเท็กซัส เตือนว่าความเคลื่อนไหวนี้เป็นความผิดพลาด ขณะที่ เบน ซาสซี ส.ว. จากรัฐเนแบรสกา ซึ่งนั่งตำแหน่งคณะกรรมาธิการการข่าวกรองของวุฒิสภาด้วยนั้นแสดงความวิตกว่าการถอนทหารครั้งนี้ไม่สมเหตุสมผลกับความเป็นจริง และจะส่งผลให้โลกอันตรายขึ้น
นอกจากนี้ เยน สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ก็เตือนว่า “ราคาที่ต้องจ่ายให้กับการถอนทหารเร็วเกินไปหรือด้วยวิธีการที่ไม่สอดประสานกันนั้นอาจสูงมาก” โดยในแถลงการณ์ สโตลเตนเบิร์กระบุว่าอัฟกานิสถานอาจตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธอีกครั้ง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: