เกิดอะไรขึ้น:
เย็นวานนี้ (11 พฤศจิกายน 2563) บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 จำนวน 4 พันล้านบาท ลดลง 29%YoY แต่เพิ่มขึ้น 39%QoQ ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ที่ 4.2 พันล้านบาท โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น QoQ เป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายมากขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63 ที่มีการล็อกดาวน์และประกาศเคอร์ฟิว
แต่กำไรสุทธิไตรมาส 3 /63 ยังต่ำกว่าในไตรมาส 3/62 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้ลูกค้ากลุ่มชาวต่างชาติหายไป รวมถึงผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากพายุฝนที่เกิดขึ้นทั่วประเทศในไตรมาส 3/63 ส่งผลให้จำนวนลูกค้าเข้าร้านลดลง 21% สู่ 917 คนต่อสาขาต่อวัน แต่ยอดซื้อต่อบิลเพิ่มขึ้น 7%YoY สู่ระดับ 75 บาท
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 3/63 ลดลง 20 bps YoY สู่ระดับ 27.7% เกิดจากต้นทุนคงที่ในศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่รายได้ลดลง 4.1%YoY นอกจากนี้ยังถูกกดดันจากอัตรากำไรขั้นต้นในสินค้ากลุ่มอาหารที่ปรับตัวลดลง 10 bps YoY (72% ของยอดขาย) เนื่องจากการลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นจากอาหารแปรรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย เนื่องจากผู้บริโภคทำอาหารทานเองที่บ้านเพิ่มขึ้นมากขึ้น ซึ่งไปหักล้างกับอัตรากำไรขั้นต้นในสินค้าอุปโภคที่เพิ่มขึ้น 10 bps YoY (28% ของยอดขาย)
ในไตรมาส 3/63 CPALL ได้เปิดสาขาร้านสะดวกซื้อจำนวน 136 แห่ง ส่งผลให้จำนวนสาขาสุทธิเพิ่มขึ้นสู่ 12,225 สาขา สำหรับธุรกิจ Cash & Carry มีกำไรสุทธิที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%YoY และเพิ่มขึ้น 33%QoQ โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายสาขาเดิม (SSS) ที่เพิ่มขึ้น 3.6%YoY และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น 10 bps YoY จากการมีสัดส่วนยอดขายสินค้าอาหารสดที่ให้อัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้น
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (12 พฤศจิกายน 2563) ราคาหุ้น CPALL ปรับตัวลง 1.18%DoD สู่ระดับ 62.75 บาท เทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวลง 9.03 จุดหรือลดลง 0.67%DoD สู่ระดับ 1,336.31 จุด
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/63 จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ แต่ยังคงหดตัว YoY เนื่องจากยอดขายสาขาเดิม (SSS) จะยังคงหดตัว YoY เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ฟื้นตัว รวมถึงกำลังซื้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยแนวโน้ม SSS ในเดือนตุลาคม หดตัวอย่างน้อย 3-5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนัก
บริษัทได้ปรับการดำเนินงานเพื่อรับมือกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในยุค New Normal โดยการหันมาเน้นการขายแบบ Online to Offline (O2O) มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยอดขายช่องทางนี้คิดเป็นสัดส่วนตัวเลขเดียวระดับกลางของยอดขายทั้งหมดในปัจจุบัน
มุมองระยะยาว:
ในระยะถัดไปต้องติดตามการเข้าซื้อกิจการเทสโก้ โลตัส หลังจากที่คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าเห็นชอบให้บริษัทเข้าซื้อกิจการเทสโก้ โลตัส ได้แบบมีเงื่อนไข โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ในช่วงพิจารณาเงื่อนไขดังกล่าว และคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 60 วัน
ข้อมูลเพิ่มเติม:
%YoY % การเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
%QoQ % การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์