เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (27 ตุลาคม) บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/63 โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว 6% แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 49% ดีกว่าตลาดคาดการณ์
7% ที่ระดับ 1.3 พันล้านบาท
โดยสาเหตุกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 3 ที่ลดลงเมื่อเทียบแบบปีต่อปีนั้นเป็นผลมาจากการถูกกดดันยอดขายสาขาเดิมที่หดตัวลง 3-4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เพราะได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังของผู้บริโภค เนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นและความกังวลด้านการจ้างงานในอนาคต ส่งผลให้มีการเลื่อนใช้จ่ายเกี่ยวกับการตกแต่งหรือซ่อมแซมบ้านออกไป
สำหรับยอดขายของธุรกิจโฮมโปรในมาเลเซียเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากกลับมาดำเนินการ และได้แรงหนุนจากมาตรการช่วยเหลือทางการเงินของรัฐบาลมาเลเซียแก่ผู้บริโภค
สำหรับอัตรากำไรไตรมาส 3 ปีนี้ลดลง 10bps จากปีที่แล้วสู่ระดับ 25.8% โดยเกิดจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนยอดขายในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอัตรากำไรน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มสินค้าของโฮมโปร ส่วน EBIT Margin ลดลง 60 bps จากปีที่แล้วสู่ระดับ 12% เกิดจากรายได้ค่าเช่าและบริการที่ลดลงจากการให้ส่วนลดค่าเช่าแก่ผู้เช่าบางราย ซึ่งไปหักล้างกับค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายที่ลดลงจากการคุมค่าใช้จ่ายและค่าสาธารณูปโภคที่ลดลง
กระทบอย่างไร:
เมื่อวานนี้ราคาหุ้น HMPRO ปรับตัวขึ้นจากวันก่อนหน้า 4.44% สู่ระดับ 14.10 บาท หลังจากรายงานผลประกอบการดีกว่าตลาดคาด ขณะที่วันนี้ (28 ตุลาคม) ราคาหุ้นไม่เคลื่อนไหวมากนัก และปิดช่วงเช้าที่ระดับ 14.10 บาท เท่ากับราคาปิดวานนี้
มุมมองระยะสั้น:
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/63 SCBS คาดว่ายอดขายสาขาเดิมจะหดตัวจากปีที่แล้วน้อยลงจากไตรมาส 3/63 ท่ามกลางกำลังซื้อและเซนทิเมนต์ที่ยังคงอ่อนแอ แต่ได้ปัจจัยบวกชดเชยจากมาตรการกระตุ้นการจ่ายใช้ด้วยการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านโครงการ ‘ช้อปดีมีคืน’ ด้วยการซื้อสินค้าและบริการไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2563
มุมมองระยะยาว:
ในระยะยาว SCBS มองว่าความต้องการสินค้าในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านยังจะมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นจากเทรนด์ของการทำงานที่บ้าน (Work from Home) ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นต่อความต้องการในสินค้าเฟอร์นิเจอร์สำนักงานมากขึ้น รวมถึงการฟื้นตัวของกำลังซื้อเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกระตุ้นต่อยอดขายสาขาเดิมของโฮมโปรให้ฟื้นตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ยังต้องติดตามแผนการเปิดสาขาของโฮมโปรทั้งในประเทศและต่างประเทศ (มาเลเซีย) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนต่อการเติบโตของผลประกอบการโดยรวมได้ในระยะยาว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์