อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยรวม และส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ จากสถิติข้อมูลพบว่า มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนปีละประมาณ 23,000 คน คิดเป็น 37 คนต่อประชากร 1 แสนคน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 3 คน ในขณะที่ทั่วโลกมีค่าเฉลี่ยการตายบนถนนอยู่ที่ 18 คนต่อประชากร 1 แสนคน ด้วยเหตุนี้ใน พ.ศ. 2558 องค์การอนามัยโลกจึงจัดให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก ในปีเดียวกันมีผู้บาดเจ็บสาหัสอันเกิดจากอุบัติเหตุทางถนนจำนวน 110,777 คน และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1,044,757 คน และดูเหมือนว่าปัญหาอุบัติเหตุทางถนนยังมีแนวโน้มความรุนแรงและความถี่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลขนี้ย่อมสะท้อนให้เห็นว่า ในแต่ละปีประเทศต้องสูญเสียประชากรซึ่งเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่าในการเป็นพลังที่จะร่วมกันพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศชาติไปเป็นจำนวนมาก ขณะที่สถาบันวิจัยที่ดีอาร์ไอได้คำนวณมูลค่าความสูญเสียจากการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุจราจร เกิดความสูญเสียที่คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อประเทศราว 5 แสนล้านบาทต่อปี
แต่เมื่อมนุษย์ยังคงต้องเดินทาง ดังนั้นการสร้างความตระหนักรู้ต่อสถานการณ์ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในทุกมิติให้เกิดขึ้นต่อประชาชนจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องบูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน ทั้งเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ‘ธนชาตประกันภัย’ ในฐานะที่เป็นองค์กรด้านการประกันภัย ตระหนักเป็นอย่างดีถึงบทบาทขององค์กรที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมทุกระดับ
จึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ อันจะยังเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความเข้มแข็งต่อสังคม โดยเฉพาะการสร้างความปลอดภัยทางถนน จึงได้จัดทำโครงการ ‘แต้มต่อสู่ความปลอดภัย Yes, We Safe’ ตั้งแต่ปี 2557 ด้วยมุ่งหวังที่จะลดอัตราความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนถนนในทุกเส้นทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนสายรองในท้องถิ่น ชุมชน และหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งจากสถิติในแต่ละปีพบว่าเป็นถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด
คุณพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะผู้ประกอบการด้านการประกันภัย บริษัทตระหนักถึงปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนน โดยมีความมุ่งมั่นในการสร้างแต้มต่อด้านความปลอดภัยสู่ชุมชน และเพื่อสอดคล้องกับแผน ‘ทศวรรษ
แห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554-2563’ ของรัฐบาล ที่มีนโยบายให้หน่วยงานภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมรณรงค์ด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนร่วมกันทุกภาคส่วนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทางธนชาตประกันภัยจึงสนับสนุนนโยบายภาครัฐดังกล่าวในการเป็นอีกแรงขับเคลื่อนหนึ่งที่มีส่วนสร้างความปลอดภัยทางถนน
แน่นอนว่าการรณรงค์จากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเพียงลำพังคงไม่สามารถตอบโจทย์ความปลอดภัยทางถนนได้ทุกมิติ ดังนั้นการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะประชาชนในชุมชนท้องถิ่นต่างๆ ได้ร่วมกันรับผิดชอบในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน่าจะเป็นทางออกที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน โดยในปีที่ผ่านมา ธนชาตประกันภัยจึงสร้างแต้มต่อให้กับสังคม โดยร่วมมือกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ต่อยอดโครงการ ‘Safer on the Road’ มาสู่โครงการ ‘พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย’
“เราเชื่อมั่นว่าความปลอดภัยทุกคนมีส่วนสร้างได้ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และคนในชุมชน หากร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งแล้ว ย่อมได้ผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการ ‘พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย’ เราต้องการปลุกชุมชนให้มีความตื่นตัวและตระหนักถึงปัญหา เพื่อนำไปสู่การร่วมกันสำรวจหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขจุดเสี่ยงบนถนนในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียของคนในชุมชนและผู้ใช้เส้นทาง ด้วยการเปิดพื้นที่ให้ชุมชนทั่วประเทศมีส่วนร่วมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนนำเสนอเป็นโครงการวิเคราะห์แก้ไขจุดเสี่ยงในชุมชนของตน โดยใช้หลักการประเมินจากปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งด้านกายภาพและพฤติกรรมทางสังคม เน้นให้ชุมชนสามารถดำเนินการได้ง่ายๆ”
จากการบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกับบริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนในเชิงนโยบายเท่านั้น แต่ยังทำให้กลไกในระดับปฏิบัติการ โดยเฉพาะศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ ได้เกิดการขับเคลื่อน และขยายภาคีเครือข่ายให้เพิ่มมากขึ้นในระดับพื้นที่ ถือเป็นปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญยิ่งใหญ่ที่จะส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ นอกจากนี้ถือเป็นการ สร้างเวทีและเปิดพื้นที่ให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมรับผิดชอบ ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนของตนเอง โดยมีศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด (ศปถ.จังหวัด) คอยเป็นพี่เลี้ยงให้การสนับสนุนในการดำเนินการ และมีพนักงานจิตอาสาของบริษัทธนชาตประกันภัยลงไปร่วมให้ความรู้ โดยอาศัยแนวทางภายใต้ทฤษฎี ‘ฮิยาริ-ฮัตโตะ (Hiyari-Hatto)’ ที่มุ่งเน้นกระบวนการจัด ทำแผนที่จุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในชุมชน การประเมินจุดเสี่ยง และสร้างแผนที่จุดเสี่ยงให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่เป็นพื้นที่เสี่ยง รวมถึงแนวทางการศึกษาองค์ความรู้ผ่านระบบ E-Learning บนเว็บไซต์ พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย.com เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนให้คำปรึกษาและกำกับติดตามการดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามขั้นตอน เริ่มต้นจากการที่ชุมชนนำเสนอ ข้อมูลจุดเสี่ยงในชุมชนของตนเองเข้ามาแล้ว จึงเข้าสู่ขั้นตอนการคัดเลือกผลงาน
ซึ่งจากผลงานที่ส่งเข้ามาทั้งหมดได้ทำการคัดเลือกให้เหลือเพียง 10 พื้นที่จุดเสี่ยง จากที่ส่งมากว่า 140 พื้นที่ ซึ่งจังหวัดกระบี่เป็นพื้นที่จุดเสี่ยงภัยที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด จึงถือเป็นจังหวัดแรกของการนำร่องเพื่อแก้ไขจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบนถนนอันตราย โดยจุดที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขคือ บริเวณหน้าโรงเรียนเทศบาลตำบลเขาพนมจำนวน 1 จุด เนื่องจากมีปัญหาทั้งทางด้านกายภาพและสังคม (พฤติกรรม) โดยด้านกายภาพ บริเวณดังกล่าวไม่มีอุปกรณ์แจ้งเตือนจราจรการใช้รถใช้ถนนทั้งบนพื้นผิวถนนและริมถนน ทำให้รถยนต์ที่สัญจรไปมาไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ประกอบกับเป็นย่านชุมชนบริเวณหน้าโรงเรียนที่มีรถสัญจรไปมาด้วยความเร็วเป็นจำนวนมาก จึงเป็นจุดที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ส่วนด้านสังคม ด้วยการดำเนินชีวิตของคนในชุมชนยังมีพฤติกรรมเคยชินแบบเดิมๆ ยังขาดความตระหนักรู้ถึงอันตรายของอุบัติเหตุทางถนนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น จอดรถบริเวณริมถนนหน้าโรงเรียนในจุดห้ามจอด
ดังนั้นธนชาตประกันภัยในฐานะผู้ดำเนินโครงการ ‘พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย’ และศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ในฐานะที่เป็นกลไกสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการฯ จึงผนึกกำลังกับชุมชน ร่วมกันดำเนินการปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยงอันตรายบนเส้นทางในพื้นที่ชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 10 รายการ ประกอบด้วย ตีเส้นจราจรขาว-เหลืองระยะทาง 250 เมตร, ตีเส้นจราจรเทอร์โมพลาสติกทางม้าลายสีขาว 1 จุด, ติดตั้งป้ายบังคับ บ-32 จำนวน 2 ชุด, ติดตั้งป้ายเตือน ต-9 จำนวน 1 ชุด, ติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบพลังงานแสงอาทิตย์ 2 ชุด, ติดตั้งป้ายเตือนเขตโรงเรียน 2 ชุด, ติดตั้งป้ายเตือนทางข้าม 2 ชุด, ติดตั้งกรวยล้มลุก 24 ชุด, ทาสีขาว-แดง ขอบฟุตบาททั้ง 2 ฝั่ง ระยะทาง 100 เมตร, ทำความสะอาด และงานทาสีขอบสะพาน 1 สะพาน
นอกจากนี้ยังได้จัดอบรมให้ความรู้กับชุมชน โดยมี นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) ร่วมสร้างเสริมการเรียนรู้ ค้นหาสาเหตุของปัญหาอุบัติเหตุทางถนน เพื่อแสวงหาแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องร่วมกันต่อไป
ธนชาตประกันภัยยังไม่หยุดที่จะสร้างแต้มต่อให้ชุมชนเพียงแค่นี้ เพราะมีการวางเป้าหมายในการแก้ไขจุดเสี่ยงจุดอันตรายต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้ได้ 10 จุดทั่วประเทศภายในปี 2563 นี้
จากเป้าหมายที่กำหนดไว้ทั้งหมด 30 จุดทั่วประเทศ ที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2562-2564) ภายใต้งบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทฯ 10 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนให้โครงการ ‘พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย’ มีส่วนช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของคนไทย
“ความปลอดภัยบนท้องถนน ทุกคนมีส่วนช่วยสร้างได้ ธนชาตประกันภัยในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ เราพยายามหาแนวทางต่างๆ เพื่อลดอุบัติเหตุให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน หรือหากหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุไม่ได้ จะทำอย่างไรให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด เพื่อให้ทุกคนสามารถดำเนินชีวิตในภาวะปกติได้อย่างราบรื่นมีความสุข สิ่งที่เราอยากเห็นคือ การใช้ถนนอย่างมีสติ โดยบริษัทประกันภัยทำหน้าที่ให้ความคุ้มครองอย่างมืออาชีพ เพื่อให้ลูกค้ามีความอุ่นใจ”
และสร้างแต้มต่อสู่ความปลอดภัยให้กับสังคมต่อไป