คณะกรรมการจัดการดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกกฎใหม่สำหรับการดีเบตรอบสุดท้ายระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และโจ ไบเดน จากเดโมแครต ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ โดยให้ปิดเสียงไมโครโฟนของแต่ละฝ่ายเป็นเวลา 2 นาที ระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังตอบคำถามแต่ละประเด็น
การดีเบตนัดสุดท้ายระหว่างทรัมป์และไบเดน จะจัดขึ้นที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี โดยกรรมการจัดดีเบตให้เหตุผลในการออกกฎใหม่นี้ว่า เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามกฎการดีเบต หลังจากที่ดีเบตรอบแรกนั้นเต็มไปด้วยความปั่นป่วนจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่เคารพกฎและพูดแทรกไบเดนบ่อยครั้ง
“ทีมหาเสียงของทั้งสองฝ่ายยืนยันความเห็นพ้องของพวกเขา ต่อกฎการดีเบตแบบไม่สะดุดนาน 2 นาที ทางคณะกรรมการประกาศวันนี้ ว่าเพื่อบังคับใช้กฎที่ตกลงกัน จะให้ผู้สมัครเพียงคนเดียวที่ไมโครโฟนเปิดระหว่างช่วงเวลา 2 นาที คือผู้สมัครที่ได้พูดตามกฎการดีเบต” แถลงการณ์จากคณะกรรมการจัดดีเบต ระบุ
ทั้งนี้ ในการดีเบตทั้งหมด 90 นาที จะแบ่งการตอบคำถามเป็น 6 ช่วง ช่วงละ 15 นาที ซึ่งการให้เวลาแต่ละฝ่ายดีเบตได้ 2 นาทีในช่วงเริ่มต้นนั้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คณะกรรมการพิจารณาว่ามีความสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ทางด้านทีมหาเสียงของทรัมป์ ออกแถลงการณ์คัดค้านการเปลี่ยนกฎเบตดังกล่าว แต่ยืนยันว่าทรัมป์จะเข้าร่วมดีเบต แม้ว่ามีการเปลี่ยนกฎในนาทีสุดท้าย พร้อมโจมตีคณะกรรมการจัดดีเบตว่ามีความลำเอียง และพยายามเปลี่ยนกฎเพื่อประโยชน์ของไบเดน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมานักวิเคราะห์การเมืองหลายคน แสดงความกังวลว่าการปิดไมค์ระหว่างที่ผู้สมัครอีกฝ่ายกำลังพูดนั้นอาจไม่เพียงพอสำหรับทรัมป์ ที่อาจจะตะเบ็งเสียงก่อกวนสมาธิของไบเดนได้อยู่ดี อีกทั้งการปิดไมค์ 2 นาทีดังกล่าว เป็นการเปิดโอกาสให้ทรัมป์โกหก เช่นกล่าวถึงผลงานที่ไม่เป็นจริง โดยที่ไบเดนไม่สามารถทักท้วงได้ ซึ่งทางที่เหมาะสมคือควรมีระบบตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือ Fact Check ในระหว่างดีเบตด้วย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
พบกับเว็บไซต์พิเศษ US ELECTION 2020 เกาะติดศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ ทั้งสถานการณ์ล่าสุดและบทความเจาะลึก ได้ที่นี่ https://thestandard.co/us-election-2020/