วันนี้ (30 กันยายน) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ ธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย เธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานในภาคเกษตรที่ประเทศอิสราเอล ณ ด่านตรวจคนหางาน กรมการจัดหางาน อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ภายในท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
โดยธิวัลรัตน์กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากในแต่ละปีประเทศไทยมีการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศกว่า 1 แสนคน มีรายได้ส่งกลับประเทศกว่า 1 แสนล้านบาท จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องชะลอการจัดส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศ จนถึงปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายลง เนื่องจากประเทศไทยมีมาตรการต่างๆ ที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้
ธิวัลรัตน์กล่าวต่อด้วยว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้จัดส่งแรงงานไปทำงานภาคเกษตรในประเทศอิสราเอลแบบรัฐต่อรัฐ ตามโครงการความร่วมมือไทย-อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและอิสราเอลที่ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน
และในวันนี้เป็นการจัดส่งแรงงานไทยจำนวน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มจ้างงานใหม่จำนวน 131 คน และแรงงานที่กลับมาพักชั่วคราวในประเทศไทยที่เคยมีการชะลอการเดินทางเข้าประเทศอิสราเอลเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และนายจ้างรับกลับไปทำงานในประเทศอิสราเอลตามเดิมจำนวน 83 คน รวมจำนวน 214 คน
โดยเดินทางด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ สายการบิน AirAsia X เที่ยวบิน XJ 208 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา 12.40 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติ Ben Gurion ประเทศอิสราเอล เวลา 19.45 น.
ทั้งนี้ ธิวัลรัตน์กล่าวกับแรงงานไทยที่จะเดินทางไปอิสราเอลว่า ขอให้ทุกคนศึกษากฎหมาย วัฒนธรรม ประเพณี ของประเทศอิสราเอล และที่สำคัญให้หลีกเลี่ยงการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อบายมุข และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจส่งผลเสียต่อหน้าที่การงานได้ เนื่องจากกฎหมายของประเทศอิสราเอลมีการลงโทษที่รุนแรง
นอกจากนี้ขอให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับมาพัฒนาประเทศ รู้จักเก็บออมเพื่อนำรายได้ส่งกลับให้ครอบครัว รวมทั้งให้สมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับการสงเคราะห์และช่วยเหลือเมื่อประสบปัญหาในต่างประเทศตามอัตราที่กองทุนฯ กำหนด และเน้นย้ำให้แรงงานไทยปฏิบัติตามขั้นตอนที่ทางการกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล