อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่าภายหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติคำขออนุญาตเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR แล้วจะเดินหน้าพบนักลงทุนสถาบันต่อไป
“เราอยู่ระหว่างการประเมินสภาพตลาดในตอนนี้ ส่วนจะทันภายในปีนี้หรือไม่คงตอบไม่ได้ ด้านการกระจายหุ้น หากเรายังถือสัดส่วน 75% และทำให้ OR ยังคงเป็นรัฐวิสาหกิจก็ไม่ได้มีปัญหาในการบริหารจัดการอะไร และไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน”
อรรถพลกล่าวว่า ส่วนการลดต้นทุนการผลิตก๊าซของบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ให้เหลือ 25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปัจจุบันที่ 30 ดอลลาร์นั้น คาดว่าจะดำเนินการได้ภายใน 3-5 ปี โดย PTTEP มีแผนที่จะหาแหล่งผลิตที่มีต้นทุนต่ำอยู่แล้ว โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง
ส่วนโครงการสนับสนุนพนักงานของบริษัทเที่ยวในประเทศนั้น ปตท. ได้เตรียมงบ 18 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนให้พนักงานเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะในวันธรรมดา แต่หากจะไปในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์จะต้องเดินทางออกจากพื้นที่อยู่อาศัยในระยะ 300 กิโลเมตรขึ้นไป โดยบริษัทจะสนับสนุนค่าใช้จ่าย 50% แต่ไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งจะเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคมนี้
ด้านการแต่งตั้ง มนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTTEP โดยจะมีผลวันที่ 1 ตุลาคมนี้นั้น มีการวางเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่อไปในอนาคตด้วย
ส่วนการจัดตั้งโรงงานผลิตยาทุกรูปแบบที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยร่วมกับองค์การเภสัชกรรม ซึ่งเบื้องต้น ปตท. จะลงทุนให้ก่อนเป็นวงเงิน 2,500 ล้านบาท หลังจากนั้นองค์การเภสัชกรรมจะใช้คืนในรูปแบบการจ่ายค่าเช่า
ทั้งนี้ ปตท. จะใช้ศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม ตลอดจนความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการโครงการ เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างโรงงานให้สามารถแล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด
“การผลิตโรงงานครั้งนี้จะทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิต ทำให้คนไทยได้ใช้ยาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ รวมถึงเป็นตัวอย่างความร่วมมือของรัฐวิสาหกิจไทยที่ร่วมกันเดินหน้าเพื่อพัฒนาประเทศไทยตามแนวทาง Restart Thailand” อรรถพลกล่าว
สำหรับโรงงานดังกล่าวจะตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมวนารมย์ของ ปตท. หรือ PTT WEcoZi จังหวัดระยอง โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 14 เดือนจึงแล้วเสร็จ หลังจากนั้นจะทำการสรุปผลการศึกษาและประเมินแนวทางการขับเคลื่อนโครงการต่อไป โดยมีแผนดำเนินการก่อสร้างโรงงานในปี 2565 เพื่อให้สามารถทำการวิจัยพัฒนาและผลิตยารักษาโรคมะเร็งเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2570
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
รายงาน ภัทราภรณ์ เกียรตินันท์
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com