วานนี้ (12 สิงหาคม) จ้าวลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (11 สิงหาคม) ว่าจีนหวังว่าสหรัฐอเมริกาจะเปิดฐานวิจัยฟอร์ต เดตริก ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการชีวภาพในรัฐแมริแลนด์ ให้สื่อมวลชนได้เข้าถึง รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการชีวภาพกว่า 200 แห่งในต่างประเทศของสหรัฐฯ และเชิญผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการตรวจสอบแหล่งที่มาของโรคโควิด-19
จ้าวลี่เจียน กล่าวแถลงเพื่อตอบคำถามเรื่องการสัมภาษณ์ผู้อำนวยการสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น (WIV) และสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีนสาขาอู่ฮั่นของสถานีโทรทัศน์ NBC ที่ มอร์แกน ออร์ทากัส โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหาว่า เป็นการสัมภาษณ์ที่ไม่ได้กดดันเพื่อหาข้อเท็จจริง
จ้าวกล่าวว่า ความคิดเห็นเหล่านั้นไม่น่าแปลกใจ “เพราะเรารู้ดีว่าบุคคลบางคนในสหรัฐอเมริกาที่มี ‘นิยาม’ ของความจริงเป็นของตัวเอง ตราบใดที่คำโกหกยังสามารถโจมตีและป้ายสีจีนได้ มันก็จะถูกมองว่าเป็นข้อเท็จจริง”
จ้าวกล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนได้แบ่งปันความเห็นที่เป็นมืออาชีพเกี่ยวกับการจัดการและการวิจัยของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นในการสัมภาษณ์หลายๆ ครั้ง
“ข้อเท็จจริงง่ายๆ เลยก็คือมันไม่มีหลักฐานใดที่นำมาอ้างได้เลยว่าไวรัสโคโรนา 2019 นั้นมาจากห้องปฏิบัติการใด
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สหรัฐฯ จะเปิดฐานการวิจัยของตนที่ฟอร์ต เดตริก ให้สื่อมวลชนเข้าถึง เผยแพร่ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการทางชีวภาพกว่า 200 แห่งในต่างประเทศของตน และเชิญผู้เชี่ยวชาญของ WHO มาดำเนินการตรวจสอบแหล่งที่มาของโรคนี้ เพื่อให้สหรัฐฯ มีโอกาสบอกความจริงและให้คำอธิบายกับชาวอเมริกันและประชาคมระหว่างประเทศ” เขากล่าวเสริม
จ้าวกล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนยกชีวิตของผู้คนไว้เป็นอันดับแรก และเป็นศูนย์กลางซึ่งการรับมือกับการแพร่ระบาดของรัฐบาลจีนนั้นสามารถผ่านบททดสอบแห่งกาลเวลาและประวัติศาสตร์ได้ ซึ่งตรงข้ามกันอย่างชัดเจนกับพรรคการเมืองของสหรัฐฯ ที่วางผลประโยชน์ทางการเมืองไว้เป็นอันดับแรก
โฆษกจีนยังกล่าวด้วยว่า การมุ่งต่อสู้กับไวรัสและช่วยชีวิตผู้คนควรเป็นภารกิจที่แท้จริงสำหรับสหรัฐฯ หาใช่การใช้ข้ออ้างมาสาดโคลนจีนอยู่ร่ำไป เพราะตอนนี้ผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันในสหรัฐฯ ได้พุ่งทะลุ 5 ล้านคนไปแล้ว และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1.6 แสนคนแล้ว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว