จีนประณามสหรัฐฯ สั่งปิดสถานกงสุลในฮิวสตันภายใน 72 ชั่วโมง ชี้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงประณามการกระทำของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังมีคำสั่งให้จีนปิดสถานกงสุลของตนในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส และยุติภารกิจทั้งหมดภายในเวลา 72 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ (21 กรกฎาคม)

หวังเหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า คำสั่งของสหรัฐฯ ที่ให้จีนปิดสถานกงสุลทันทีใน 72 ชั่วโมง ถือเป็นการยั่วยุทางการเมืองและละเมิดอย่างร้ายแรงต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดจนหลักปฏิบัติพื้นฐานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องในสนธิสัญญากงสุล จีน-สหรัฐฯ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ขยายความตึงเครียดระหว่างสองประเทศไปถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“จีนขอประณามอย่างรุนแรงต่อความเคลื่อนไหวอันอุกอาจและไม่เป็นธรรมซึ่งจะบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ” หวังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเลิกการตัดสินใจ ‘ที่ผิดพลาด’ ดังกล่าวในทันที ก่อนจะเผชิญการดำเนินการทางกฎหมายและการตอบโต้ที่เหมาะสมจากจีน

เบื้องต้นยังไม่มีรายงานแน่ชัดถึงสาเหตุที่ทำให้สหรัฐฯ ตัดสินใจสั่งปิดสถานกงสุลจีนในฮิวสตัน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นมิตรต่อจีนในหลายด้าน ทั้งการเปิดฉากสงครามการค้า ไปจนถึงการคว่ำบาตรอุปกรณ์เครือข่าย 5G จากบริษัท Huawei

นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศจีนยังกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าดำเนินการกลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่ด้านการทูตของจีน และยังข่มขู่นักศึกษาจีน โดยมีการยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัวและกักตัวแบบไม่มีสาเหตุ อีกทั้งก่อนหน้านี้มีรายงานว่านักการทูตจีนยังได้รับคำขู่วางระเบิดและขู่เอาชีวิตด้วย

ขณะเดียวกันช่วงกลางดึกวานนี้ (21 กรกฎาคม) มีรายงานว่า ตำรวจและหน่วยดับเพลิงในเมืองฮิวสตัน พากันเดินทางไปยังสถานกงสุลจีนที่กำลังตกเป็นประเด็น หลังได้รับแจ้งว่ามีผู้เผากระดาษจำนวนมากภายในสถานกงสุล ทำให้เกิดควันไฟคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ แต่เมื่อเดินทางไปถึง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปภายใน ก่อนที่ไฟจะถูกดับลงโดยไม่มีรายงานเหตุอันตรายหรือผู้บาดเจ็บ

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: