วันนี้ (20 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีวาระพิจารณาการจัดสรรงบประมาณในส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีกรรมาธิการและข้าราชการจากกรมต่างๆ ที่มาชี้แจงเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรักษาการประธานกรรมาธิการแทน อุตตม สาวนายน ที่ลาออก
จากนั้นในเวลา 15.58 น. ได้เกิดปัญหาองค์ประชุมล่ม ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ จนกระทั่ง วราเทพ รัตนากร รองประธานกรรมาธิการคนที่ 3 ซึ่งทำหน้าที่ประธานแทนสันติที่ติดภารกิจไปชี้แจงกฎหมายต่อที่ประชุมสมาชิกวุฒิสภานั้น ได้สั่งปิดการประชุม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ โดยระหว่างนั้นได้ปรากฏกรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้ง ส.ส. พรรคฝ่ายค้าน นำโดย เพื่อไทย อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย พากันยืนอยู่หน้าห้อง ไม่เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้มีรายงานว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์องค์ประชุมล่ม เนื่องจาก ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส. จังหวัดอุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการคนที่ 12 ได้เสนอนับองค์ประชุม เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจแนวทางการทำงานของกรรมาธิการของพรรคพลังประชารัฐที่ไม่ชัดเจนในการทำงาน
ด้าน วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการจากพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าสาเหตุที่องค์ประชุมล่มเนื่องจากกรรมาธิการไม่มีการพูดคุยอะไรกันเลย ทำให้ไม่มีใครที่จะตัดสินใจในการทำงานของกรรมาธิการได้เลย โดยเฉพาะวราเทพที่ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมตัดสินใจอะไรไม่ได้เลยในเรื่องที่พิจารณา ต้องฟังเสียงจากคนข้างนอก ดังนั้นหากสุดท้ายยังไม่มีใครตัดสินเรื่องต่างๆ ในการทำหน้าที่กรรมาธิการได้ ก็จะส่งผลให้กรรมาธิการชุดนี้เดินหน้าทำงานต่อไปไม่ได้
“ในที่ประชุมมีความพยายามจะอะลุ่มอล่วย โดยฝ่ายค้านเสนอให้มีการพูดคุยกัน แต่วราเทพก็ประชุมลากไปเรื่อยๆ วงเล็กก็ไม่มีการคุย วงใหญ่ก็ไม่มีการคุย จึงส่งผลให้ไม่มีใครทราบเลยว่าทิศทางของการทำหน้าที่กรรมาธิการจะเป็นอย่างไร ซึ่งผมเคยเป็นกรรมาธิการงบฯ มาหลายคณะ เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แสดงให้เห็นว่าทุกพรรคเห็นด้วยกับการวางกรอบที่ชัดเจน ยกเว้นพรรคพลังประชารัฐพรรคเดียว” วรวัจน์กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 16.10 น. ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. จังหวัดมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ ได้แถลงว่าในช่วงที่มีการซักถามอธิบดีสองกรม แต่เมื่อเวลา 15.30 น. ได้เกิดสิ่งไม่คาดคิดขึ้นคือ ชาดา กรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล ได้เดินเข้ามาเสนอให้นับองค์ประชุม โดยที่พรรคฝ่ายค้านไม่ทราบเหตุผลมาก่อน ทำให้วราเทพซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้สั่งพักการประชุม 10 นาทีเพื่อเปิดโอกาสให้พูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
จากนั้นเวลา 15.45 น. ได้เปิดประชุมอีกครั้ง ชาดายังยืนยันที่จะเสนอให้นับองค์ประชุมเหมือนเดิม โดยมีผู้รับรอง 5 คน ปรากฏว่ากรรมาธิการซีกรัฐบาลทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และฝ่ายค้านได้เดินออกจากห้องประชุมไป เหลือเพียงพรรคพลังประชารัฐพรรคเดียว สุดท้ายทำให้องค์ประชุมมีเพียง 19 คน ไม่ครบองค์ประชุม ประธานจึงได้สั่งปิดประชุมเวลา 16.00 น. และนัดประชุมใหม่พรุ่งนี้ ในเวลา 09.00 น.
“คิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากภายในของรัฐบาลเอง เพราะกรรมาธิการในซีกฝ่ายค้านพรรคทั้งหมดอยู่ครบ ซึ่งวราเทพบอกว่าเคยเป็นประธานและรองประธานในการพิจารณางบฯ มาหลายสมัย ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่อยู่ๆ กรรมาธิการในซีกรัฐบาลเสนอนับองค์ประชุมและซีกรัฐบาลพากันเดินออกหมด เรียกได้ว่าโดดเดี่ยวพลังประชารัฐ แสดงว่ารัฐบาลมีปัญหากันเอง เพราะฝ่ายค้านก็อยากให้การทำงานของกรรมาธิการเดินหน้าไปได้ เพราะเรามีเวลาจำกัด ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 11 กันยายน ซึ่งอาจจะเป็นผลการปรับคณะรัฐมนตรีหรือเปล่า ผมก็สงสัย แล้วก็เคยเป็นรัฐมนตรีมาเหมือนกัน เพิ่งเห็นว่าการปรับคณะรัฐมนตรีมีการทอดยาวไปถึงเดือนสิงหาคม ความจริงมันต้องรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นงานต่างๆ จะไม่เดิน อีกทั้งคนที่ลาออกล้วนเป็นระดับรัฐมนตรีว่าการทั้งนั้น จึงแปลกใจว่าทำไมนายกรัฐมนตรีจึงยื้อเวลา เพราะท่านก็ได้รับสัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรีมาแล้ว” ยุทธพงศ์กล่าว
เมื่อถามว่าสถานการณ์เช่นนี้จะนำไปสู่การยุบสภาหรือไม่ ยุทธพงษ์กล่าวว่าถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดี แต่ยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับฝ่ายค้าน เพราะเราพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณถือว่ามีความสำคัญมาก มีถึง 72 คน องค์ประชุมต้องไม่น้อยกว่า 24 คน แค่นี้ก็ยังไม่ครบ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญและน่าวิตก ซึ่งไม่ทราบว่าพรุ่งนี้เช้าจะเริ่มประชุมต่อได้หรือไม่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์