เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา มนตรี บุนนาค ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง ได้มีหนังสือแจ้งกำหนดการสำคัญคือ กำหนดการฌาปนกิจศพ น.ช.ซีอุย แซ่อึ้ง หรือ หลีอุย แซ่อึ้ง โดยอ้างถึงคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้เชิญผู้แทนเรือนจำกลางบางขวางเข้าประชุมเรื่องการดำเนินการศพ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม และระบุรายละเอียดว่า จะดำเนินการฌาปนกิจศพของซีอุยในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้
สำหรับซีอุยเป็นชื่อของชาวจีนที่ถูกประหารชีวิตฐานฆ่าเด็ก เขาถูกจับกุมฐานฆ่าเด็กที่จังหวัดระยองเมื่อ พ.ศ. 2501 ต่อมาตำรวจสืบสวนจนได้คำรับสารภาพจากซีอุยว่า ก่อคดีอีกอย่างน้อย 6 คดี ในช่วง พ.ศ. 2497-2501 แบ่งเป็นที่ประจวบคีรีขันธ์ 4 คดี กรุงเทพมหานครและนครปฐมแห่งละ 1 คดี
เริ่มการพิจารณาคดีซีอุยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2501 เขารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เพราะจำเลยยอมรับสารภาพ แต่ตำรวจอุทธรณ์เพราะเห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอ เขาจึงถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิตเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2501 และมีการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2502
ศ.นพ.สงกรานต์ นิยมเสน หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ขอรับศพซีอุยมาผ่าตรวจสมอง ส่วนร่างถูกเก็บรักษาในลักษณะดองแห้ง โดยการฉีดฟอร์มาลินเข้าหลอดเลือด แช่น้ำยารักษาทั้งร่างไว้ 1 ปี และทาขี้ผึ้งทุกๆ 2 ปี เพื่อป้องกันเชื้อรา ร่างของซีอุยยังถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราชนับแต่นั้น โดยเขียนข้อความว่า ‘นายซีอุย แซ่อึ้ง (มนุษย์กินคน)’
ศพของซีอุยถูกเก็บไว้ที่โรงพยาบาลศิริราช ภายในพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ ซึ่งมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า ‘พิพิธภัณฑ์ซีอุย’ มีการนำชีวิตของเขามาสร้างเป็นละครโทรทัศน์รวมถึงภาพยนตร์ในภายหลัง
เมื่อ พ.ศ. 2562 มีกระแสเรียกร้องให้มีการนำศพซีอุยออกจากโรงพยาบาลศิริราช เพราะเห็นว่าซีอุยไม่ใช่ฆาตกรตัวจริงของเหยื่อทั้งหมด รวมถึงเว็บไซต์ change.org ที่ล่ารายชื่อรณรงค์นำศพซีอุยออกจากโรงพยาบาลศิริราช
วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 โรงพยาบาลศิริราชปลดป้าย ‘มนุษย์กินคน’ ออกไปแล้ว พร้อมทั้งเตรียมจัดทำบอร์ดให้ความรู้แก่สาธารณะเกี่ยวกับคดี
กระทั่งวันที่ 2 กรกฎาคมปีเดียวกัน โรงพยาบาลศิริราชได้ประกาศตามหาญาติซีอุย เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดการร่างของซีอุย หากวันที่ 7 สิงหาคม ยังไม่มีญาติมาแสดงตัว ทางโรงพยาบาลจะมีสิทธิ์อันชอบธรรมในการจัดการศพต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล