×

สร้างมาตรฐานใหม่ ‘Everyone is Family’ เปิดกว้างยอมรับความหลากหลาย แสนสิริ จับมือ SCB ให้ ‘ทุกคู่กู้ร่วมซื้อบ้านได้’ [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
03.07.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • เพื่อตอกย้ำถึงความตั้งใจจริงในการลงนามและปฏิบัติตาม UN Standards of Conduct for Business และปรัชญา ‘Made for Life’ อันเป็นปรัชญาหลักในการดำเนินธุรกิจ แสนสิริจึงผลักดันให้เกิดแคมเปญ Pride Month ซึ่งในปีนี้ดำเนินการภายใต้แนวคิด ‘Made for Everyone…Everyone is Family’ แคมเปญดังกล่าวได้ย้ำให้เห็นถึงความเข้าใจ ความเท่าเทียมและความห่วงใย ซึ่งแสนสิริอ้าแขนเปิดรับ พนักงาน ลูกค้า คู่ค้าทางธุรกิจ และสมาชิกในชุมชนทุกๆ คน ราวกับเป็นสมาชิกในครอบครัว โดยรณรงค์ สร้างการรับรู้ ให้เกิดการยอมรับกลุ่ม LGBTI ในวงกว้าง ทั้งภายในชุมชนของแสนสิริ ตลอดจนสังคมไทย
  • เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลาย ซึ่งต้องการกู้ซื้อบ้านเพื่อสร้างครอบครัวร่วมกันให้สามารถทำได้สะดวกยิ่งขึ้น แสนสิริได้ร่วมมือกับธนาคารพันธมิตรทั้ง 4 แห่ง โดยเฉพาะความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) นับเป็นการตอกย้ำความร่วมมือของภาคเอกชนที่เปิดกว้างยอมรับความหลากหลายทางสังคม และสนับสนุนความเท่าเทียมกัน เพื่อให้ทุกคู่ชีวิตสามารถกู้ร่วมซื้อบ้านได้ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด

นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในฐานะผู้นำทางธุรกิจของประเทศไทยที่จุดประกายสร้างความเปลี่ยนแปลงอันดีให้กับสังคมเสมอมา เมื่อ ‘แสนสิริ’ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของการยอมรับความเท่าเทียมและความหลากหลาย โดยนับเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ได้ร่วมลงนามในสัญญา ‘UN Global Standards of Conduct for Business’ หรือมาตรฐานข้อปฏิบัติทางธุรกิจขององค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อลดการแบ่งแยก และลดความเหลื่อมล้ำต่อกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่ง THE STANDARD มองว่านี่อาจจะเป็นหมุดหมายที่สำคัญ อันจะสร้างความเปลี่ยนแปลงดีๆ ให้เกิดขึ้นกับสังคมของเราก็เป็นได้ 

 

 

บริษัทแรกในประเทศไทยที่ได้ร่วมลงนามในสัญญา ‘UN Global Standards of Conduct for Business’ หรือมาตรฐานข้อปฏิบัติทางธุรกิจขององค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อลดการแบ่งแยก และลดความเหลื่อมล้ำต่อกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ

 

Made for Everyone & Everyone is Family

สร้างสรรค์มาเพื่อทุกคน และทุกคนก็ล้วนเป็นหนึ่งในครอบครัว 

ช่วง ‘Pride Month’ เดือนแห่งการรณรงค์ความเท่าเทียมทางเพศ ในเดือนมิถุนายนที่เพิ่งผ่านมา แสนสิริได้ต่อยอดวิสัยทัศน์การสนับสนุน ให้ความสำคัญ และสร้างความเท่าเทียมกับกลุ่ม LGBTI ด้วยแคมเปญอันน่าชื่นชมอย่าง  ‘Everyone is Family’ ที่จุดประกายให้ทุกคนได้หันมาปรับมุมมองต่อคนรอบตัวให้เหมือนกับทุกคนเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว นำร่องด้วยการออกนโยบายความเท่าเทียมภายในองค์กร รองรับสิทธิแก่พนักงานและคู่ค้า รวมถึงจัดแสดงงานศิลปะ คอมมูนิตี้แลนด์มาร์กที่สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อเป็นการรณรงค์ส่งต่อข้อความดีๆ พร้อมกันนี้ยังช่วยผลักดันร่วมกับธนาคารพันธมิตร ในเรื่องการขอสินเชื่อบ้านของชาว LGBTI รวมถึงการมอบข้อเสนอโปรโมชันพิเศษ ช่วยผ่อนให้ 24 เดือน  

 

 เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) 

และ เรอโนด์ เมแยร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย 

 

ทั้งนี้ แสนสิรินับเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ได้ลงนามในข้อตกลง ‘United Nations Global Standards of Conduct for Business’ หรือมาตรฐานข้อปฏิบัติทางธุรกิจขององค์การสหประชาชาติ เพื่อลดการแบ่งแยก และความเหลื่อมล้ำในกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ ‘LGBTI’ ซึ่งย่อมาจาก Lesbian (หญิงรักหญิง) Gay (ชายรักชาย) Bisexual (คนรักสองเพศ) Transgender (คนข้ามเพศ) Intersex (อินเทอร์เซ็กส์หรือเพศกำกวม) การลงนามในข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าแสนสิริมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงที่จะสร้างสรรค์วัฒนธรรมองค์กร ซึ่งจะช่วยให้คนทุกกลุ่มรู้สึกมีส่วนร่วมตามหลักแห่งความเท่าเทียมและความหลากหลาย อันเป็นค่านิยมหลักที่แสนสิริยึดถือมาโดยตลอด สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ตามแนวคิด ‘Made for Everyone’ ของแสนสิริที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยในพิธีลงนามครั้งสำคัญนี้ ‘เรอโนด์ เมแยร์’ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (United Nations Development Programme: UNDP) ได้กล่าวไว้ว่า

 

 “ความปกติใหม่หลังวิกฤตโควิด-19 นั้นควรจะเปิดกว้างมากขึ้นกว่าเดิม และผมเห็นว่าแสนสิริได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วในวันนี้ ว่ามุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตาม UN Standards ในเรื่องสิทธิความเท่าเทียมของ LGBTI โดยทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้เห็นแสนสิรินำ UN Standards มาใช้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแสดงความเป็นผู้นำในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่สามารถจุดประกายให้หลายๆ บริษัทในประเทศไทยเดินตามเส้นทางการดำเนินธุรกิจนี้เช่นเดียวกับแสนสิริ”

 

จุดประกายสร้างมาตรฐานใหม่ 

สร้างความเปลี่ยนแปลงอันดีให้เกิดขึ้นกับโลกและสังคม

นับเป็นการจุดประกายและสร้างมาตรฐานใหม่ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเปิดกว้างให้กับคนที่มีความหลากหลาย การลงนามในครั้งนี้ยังส่งผลให้แสนสิริได้เข้าร่วมกับกลุ่มบริษัทระดับโลกกว่า 200 บริษัท ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่ อย่าง Microsoft, Google, Coca-Cala, Netflix และ Nike เป็นต้น ซึ่งบริษัทชั้นนำของโลกเหล่านี้ ล้วนต่างก็มีความปรารถนาร่วมกัน ในการที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอันดีให้เกิดขึ้นกับสังคมและโลกใบนี้ของเรา 

 

สำหรับมาตรฐานข้อปฏิบัติทางธุรกิจขององค์การสหประชาชาตินั้นเขียนขึ้นโดยสำนักงานของข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (Offices of the United Nations High Commissioner for Human Rights – OHCHR) โดยมีเป้าหมายเพื่อรณรงค์หลักการทางธุรกิจ ซึ่งแสนสิริได้ลงนามที่จะยึดมั่นเพื่อปรับใช้ในสถานที่ทำงาน การดำเนินธุรกิจ รวมถึงในชุมชน ซึ่งหลักการดังกล่าวนั้น มีอยู่ด้วยกัน 5 ประการดังนี้ 

 

  1. เคารพสิทธิมนุษยชนของกลุ่ม LGBTI ในทุกการดำเนินการและความสัมพันธ์ทางธุรกิจ
  2. ขจัดการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบ ที่มีต่อพนักงานที่เป็น LGBTI ในสถานที่ทำงาน
  3. ให้การสนับสนุนเชิงรุกแก่พนักงาน ที่เป็น LGBTI โดยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวก สร้างความเชื่อมั่น ช่วยให้พนักงานทุกคนทำงานร่วมกันได้อย่างมีเกียรติ
  4. ป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งอาจเกิดจากการกีดกันต่อลูกค้า คู่สัญญา คู่ค้า รวมถึงบุคคลอื่นๆ
  5. ผลักดันประเด็นเรื่องความเท่าเทียมอย่างเป็นสาธารณะ ซึ่งอาจรวมไปถึงการรณรงค์ในที่สาธารณะ สนับสนุนให้เกิดข้อตกลงการปฏิบัติร่วมกัน กระตุ้นให้เกิดการพูดคุยในสังคม หรือการให้ความสนับสนุนทางการเงินหรือปัจจัยต่างๆ ต่อองค์กรที่ต่อสู้เพื่อสิทธิของ LGBTI 

 

วัฒนธรรมองค์กรที่เคารพสิทธิมนุษยชน

ทั้งนี้ เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวอธิบายถึงเหตุผลที่แสนสิริตัดสินใจเข้าร่วมลงนามในข้อตกลง UN Standards of Conduct for Business เอาไว้ได้อย่างน่าประทับใจว่า 

 

“วัฒนธรรมองค์กรที่ดีควรจะเคารพต่อสิทธิมนุษยชน และลดการกีดกันในสถานที่ทำงาน แสนสิริเชื่อมั่นว่ามนุษย์ทุกคนควรได้รับสิทธิและโอกาสที่เท่าเทียมกัน นโยบายส่งเสริมการยอมรับความแตกต่างและอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมนี้ คือการบอกว่าทุกคนต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแสนสิริ เริ่มตั้งแต่การรับสมัครพนักงาน แสนสิริต้องการคนที่เก่งและเหมาะสมที่สุดมาร่วมงานกับเราเสมอ ดังนั้นหากเราไม่พิจารณาคนที่มีความสามารถจากทุกๆ กลุ่มอย่างเท่าเทียมโดยไม่แบ่งแยกแล้ว เราก็จะไม่สามารถมอบโครงการ และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราได้ แสนสิริจึงต้องการเปิดกว้างให้ทุกๆ คนได้มีโอกาสแสดงความสามารถ เพื่อที่จะทำให้แสนสิริเป็นองค์กรที่ให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมได้อย่างแท้จริง

 

“ผมว่ามันคุ้มที่จะนำเอาหลักความเท่าเทียมทางเพศ และการไม่แบ่งแยกมาเป็นข้อปฏิบัติ เพราะมีผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า สถานที่ทำงานใดที่ให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมนั้นจะมีผลประกอบการที่ดีกว่าบริษัทที่ไม่ได้ทำตามข้อปฏิบัตินี้ เพราะจะสามารถดึงดูดลูกค้าที่ให้ความใส่ใจกับความเท่าเทียม รวมถึงยังดึงดูดพนักงานผู้มีความสามารถให้เข้าร่วมและอยู่กับบริษัทได้ยาวนานกว่า และไม่ว่าจะเป็นเพศวิถี (Sexuality) หรือเพศสภาพ (Gender) ใด พนักงานทุกคนต่างแสดงถึงความพอใจที่มีต่องานในบริษัทที่ทำตามข้อปฏิบัตินี้อีกด้วย 

 

“ที่แสนสิริ เราได้สร้างการป้องกันการแบ่งแยกทางเพศในที่ทำงาน โดยจะมีโปรแกรมฝึกอบรมในเรื่องของความหลากหลาย และการไม่แบ่งแยกให้กับพนักงานของบริษัท ทั้งพนักงานระดับบริหาร รวมถึงพนักงานขายที่อยู่ในโครงการของแสนสิริอีกด้วย โดยการฝึกอบรมนี้จะพูดถึงโอกาสที่เท่าเทียม และข้อปฏิบัติเพื่อความไม่แบ่งแยก ซึ่งจะปรับใช้กับการทำธุรกรรมในทุกระดับกับลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา และบุคคลอื่นๆ ด้วย”

 

ตอกย้ำความตั้งใจด้วยแคมเปญใน Pride Month

เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการลงนามและปฏิบัติตาม UN Standards of Conduct for Business และปรัชญา ‘Made for Life’ อันเป็นปรัชญาหลักในการดำเนินธุรกิจของแสนสิริ จึงผลักดันให้เกิดแคมเปญ Pride Month ซึ่งในปีนี้ดำเนินการภายใต้แนวคิด ‘Made for Everyone…Everyone is Family’ ซึ่งแคมเปญดังกล่าวได้ย้ำให้เห็นถึงความเข้าใจ ความเท่าเทียมและความห่วงใย ซึ่งแสนสิริอ้าแขนเปิดรับ พนักงาน ลูกค้า คู่ค้าทางธุรกิจ และสมาชิกในชุมชนทุกๆ คน ราวกับเป็นสมาชิกในครอบครัว โดยรณรงค์ สร้างการรับรู้ ให้เกิดการยอมรับกลุ่ม LGBTI ในวงกว้าง ทั้งภายในชุมชนของแสนสิริ ตลอดจนสังคมไทย ด้วยการนำเฉดสีรุ้งที่เป็นสัญลักษณ์ของ Pride Month มาปรับใช้ในตราสัญลักษณ์ของแสนสิริและบริษัทในเครือ รวมถึงสร้างกิจกรรมออนไลน์หลากหลายรูปแบบให้คนทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ อาทิ 

 

สายรุ้งแห่งความหลากหลาย

การแสดงผลงานศิลปะใน #SansiriPride

 

 

 

  • ร่วมถ่ายภาพงานศิลปะ และโพสต์แฮชแท็ก #SansiriPride: โดยที่ ‘Siri Campus’ สำนักงานใหญ่ของแสนสิริ รวมถึงภายในโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ของแสนสิริ (เช่น The Line พหลฯ – ประดิพัทธ์, คณาสิริ ราชพฤกษ์ – 346, คาวะ เฮ้าส์) ได้จัดให้มีการแสดงผลงานศิลปะบนฝาผนังและกำแพง ซึ่งแสนสิริเชิญชวนให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในแคมเปญนี้ ด้วยการเข้ามาถ่ายภาพ และโพสต์ในโซเชียลมีเดีย และใช้แฮชเท็ก #SansiriPride
  • สายรุ้งแห่งความหลากหลาย…ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ: งานศิลปะอินสตอลเลชันภายใต้แนวคิด ‘ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ’ จัดขึ้นที่ ‘Sansiri Backyard at T77 Community’ คอมมูนิตี้สีเขียวสำหรับการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและยกระดับความเป็นอยู่ โดยนอกจากในช่วงเดือนแห่งการรณรงค์เพื่อความเท่าเทียมนี้ ผู้เยี่ยมชมจะสามารถเก็บผักผลไม้สดกลับไปฝากคนที่บ้านได้ ณ ทางเข้าสวนแล้ว ก็ยังได้พบกับงานศิลปะอินสตอลเลชัน ซึ่งนำสายรุ้งอันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความหลากหลาย และเป็นสัญลักษณ์ของเดือน Pride มาออกแบบ เพื่อสื่อสารถึงการมอบกำลังใจให้กันระหว่างคนในคอมมูนิตี้ ที่เผชิญปัญหามากมายตั้งแต่ต้นปี ให้มีกำลังใจสู้ และมีความหวังอยู่เสมอ เสมือนกับสายรุ้งที่พาดผ่านท้องฟ้าหลังจากพายุโหมกระหน่ำ
  • Gender Neutral Restroom: แสนสิริยังได้ออกแบบ และจัดสรรห้องน้ำที่ไม่ระบุเพศไว้ที่ชั้น 1 ของทุกอาคาร ภายในสิริ แคมปัส เพื่อแสดงออกถึงการไม่แบ่งแยก และเป็นพื้นที่ที่ปราศจากการกีดกั้น สร้างความสะดวกสบายใจให้กับผู้ใช้บริการทุกเพศทุกวัย

 

 

Gender Neutral Restroom

 

เป็นอีกแรงสนับสนุนให้ทุกคู่สามารถกู้ร่วมซื้อบ้านได้

เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อตอกย้ำนโยบายเสริมการยอมรับความแตกต่างและอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม แสนสิริยังพร้อมที่จะช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลาย ซึ่งต้องการกู้ซื้อบ้านเพื่อสร้างครอบครัวร่วมกัน โดยแสนสิริได้ร่วมมือกับธนาคารพันธมิตรทั้ง 4 ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารกสิกรไทย (KBank) ธนาคารออมสิน (GSB) และธนาคารยูโอบี (UOB) เพื่อให้มีการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อบ้านได้อย่างสะดวกขึ้น 

 

 

โดยเฉพาะความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ซึ่งทั้งสององค์กรตกลงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันในระยะยาว นับเป็นการตอกย้ำความร่วมมือของภาคเอกชนที่เปิดกว้างยอมรับความหลากหลายทางสังคม และสนับสนุนความเท่าเทียมกัน เพื่อให้ทุกคู่ชีวิตสามารถกู้ร่วมซื้อบ้านได้ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด และเป็นเจ้าของบ้านแสนสิริได้ เป็นการมอบโอกาสทางการเงินที่เท่าเทียม และเปิดโอกาสในการซื้อบ้านหลังแรกให้กับคู่ชีวิต ทั้งยังเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ในประเด็นนี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า ความร่วมมือกันระหว่างแสนสิริและธนาคารไทยพาณิชย์ในครั้งนี้ ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ 2 องค์กรชั้นนำในการแสดงเจตนารมณ์และจุดยืนในการเปิดกว้างรับความหลากหลายทางสังคม และเดินหน้าในการเป็นองค์กรที่เปิดกว้างรับทุกกลุ่มลูกค้า

 

“เราเชื่อมั่นว่าแนวคิดที่แตกต่างนี้จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เท่าเทียม อันจะทำให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ทั้งสององค์กรหวังว่าจะช่วยจุดประกายการผลักดันแนวคิดเรื่องความเท่าเทียมให้เปิดกว้างในสังคม นอกจากนี้ยังนับเป็นโอกาสที่จะได้ขยายการเติบโตทางธุรกิจเพื่อตอบรับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เริ่มคึกคักและฟื้นตัวจากโควิด-19 ที่เริ่มมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นตามลำดับ” 

 

 

การร่วมมือกันของแสนสิริ และธนาคารไทยพาณิชย์

 

ด้าน  ‘อาทิตย์ นันทวิทยา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศอย่างแสนสิริ ทั้งนี้ ทางธนาคารฯ พร้อมที่จะสนับสนุนผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านในทุกรูปแบบสำหรับกลุ่มลูกค้าของแสนสิริที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด นับเป็นการตอกย้ำบทบาทของธนาคารไทยพาณิชย์ในการเป็นสถาบันการเงินที่ให้ความสำคัญกับการเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง (Customer Focus) เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด ซึ่งการสนับสนุนสินเชื่อบ้านดังกล่าว ยังเป็นการสอดคล้องกับแนวคิดของธนาคารฯ ในการสนับสนุนให้คนไทยทุกกลุ่มเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ได้อย่างเท่าเทียมกันอีกด้วย

 

สำหรับการจับมือเดินหน้าเปิดกว้างให้กับการกู้ร่วมซื้อบ้านนี้ แสนสิริและธนาคารไทยพาณิชย์ ยังร่วมกันมอบแคมเปญ ‘แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน’ เพื่อให้เป็นเจ้าของบ้านแสนสิริได้ง่ายขึ้นอีกด้วย นับเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของแสนสิริและไทยพาณิชย์ ในการสนับสนุนความเท่าเทียม ทั้งในองค์กร พันธมิตรคู่ค้า รวมถึงสังคม นับเป็นการจุดประกาย สร้างมาตรฐานใหม่ เพื่อสร้างให้เกิดการเปิดกว้างยอมรับความหลายหลายในสังคมไทยได้อย่างสร้างสรรค์ สมดังปรัญญา  ‘Everyone is Family’ จริงๆ   

 

#SansiriPride #MadeForEveryone #EveryoneIsFamily

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X