NPC International Inc. ซึ่งเป็นผู้ได้รับแฟรนไชส์ที่ใหญ่ที่สุดของเชนร้านพิซซ่าดัง Pizza Hut ในสหรัฐอเมริกา ได้ตัดสินใจยื่นขอล้มละลาย Chapter 11 แก่ศาลเขตทางใต้ของรัฐเท็กซัสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งได้เข้ามาเพิ่มแรงกดดันในการแข่งขันในอุตสาหกรรมร้านอาหาร
นอกเหนือจากเปิดร้าน Pizza Hut สาขาแรกมาตั้งแต่ปี 1962 ซึ่งปัจจุบันมีร้านอยู่ทั้งสิ้น 1,225 ร้าน บริษัทยังมีร้าน Wendy’s ซึ่งเน้นขายเบอร์เกอร์อีก 385 แห่งทั่วแดนลุงแซม
NPC และ Pizza Hut ต่อสู้กับค่าแรงและค่าอาหารที่สูงขึ้นขณะที่พยายามขยายธุรกิจไปสู่ช่องทางเดลิเวอรี ขณะเดียวกันยังต้องเจอการแข่งขันที่ดุเดือดจากคู่แข่ง เช่น Domino’s Pizza Inc. และ Papa John’s International Inc. อีกด้วย
จากรายงานของ Bloomberg ระบุว่า NPC มีหนี้กว่า 903 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.88 หมื่นล้านบาท โดยได้เริ่มเจรจากับเจ้าหนี้ไปบางส่วนแล้ว แผนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระหนี้ ซึ่งข้อตกลงล่าสุดเจ้าหนี้จะมีส่วนร่วมในการเพิ่มทุนใหม่ แต่จะต้องขายร้านอาหารบางส่วนออกไปด้วย
การยื่นขอล้มละลาย Chapter 11 ไม่ได้หมายความว่า NPC จะเลิกทำธุรกิจร้าน Pizza Hut และ Wendy’s กลับกันคือกระบวนการดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติในขณะที่วางแผนหาหนทางชำระหนี้ ขณะเดียวกันการล้มละลายดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อร้าน Pizza Hut และ Wendy’s ซึ่งเป็นของแฟรนไชส์รายอื่นอีกหลายพันราย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: