วันนี้ (24 มิถุนายน) หลังมีข่าวออกมาว่า สายการบินนกสกู๊ตทนพิษบาดแผลจากวิกฤตโควิด-19 ไม่ไหว จนต้องยุติกิจการ แต่ล่าสุด นกสกู๊ตได้ออกแถลงการณ์เรื่องการดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจการบินอย่างหนัก
โดยสายการบินนกสกู๊ตได้ตัดสินใจดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างหนัก ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีสัญญาณอันดีเกี่ยวกับการแพร่ระบาด และมีบางประเทศที่เริ่มผ่อนปรนการเดินทางแล้ว แต่การเดินทางระหว่างประเทศยังคงถูกจำกัด และอาจมีผลกระทบไปอีก 2-3 ปี ทำให้การเดินทางไม่สามารถฟื้นตัวกลับไปเท่าปี 2562
อย่างไรก็ตามยืนยันว่า นกสกู๊ตไม่ได้ยุติการบิน เพียงแต่รอความชัดเจนจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ว่าจะประกาศให้อากาศยานสามารถบินเข้าสู่ประเทศไทยได้เมื่อใด
ทั้งนี้ จากภาพรวมของตลาดอุตสาหกรรมการบินที่หดตัวลง สายการบินนกสกู๊ตจึงปรับลดเครื่องบินจำนวน 3 ลำภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ โดยส่งผลให้ทางบริษัทจำเป็นต้องตัดสินใจลดจำนวนพนักงานด้วยเช่นกัน ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก และทางบริษัทเข้าใจดีถึงผลกระทบต่อพนักงาน โดยสายการบินนกสกู๊ตจะชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม นกสกู๊ตได้ตระหนักถึงความสำคัญของการหางานใหม่ในช่วงเวลานี้ และจะพยายามช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบให้มากที่สุดเท่าที่สายการบินนกสกู๊ตจะสามารถทำได้ และเหนือสิ่งอื่นใด สายการบินนกสกู๊ตยังคงคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานทุกคนเป็นสำคัญ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล