วานนี้ (11 มิถุนายน) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าจีนยืนหยัดอย่าง ‘ชัดเจนและไม่เปลี่ยนแปลง’ ว่าจะไม่เข้าร่วมการเจรจาการควบคุมอาวุธระดับไตรภาคี จีน-สหรัฐฯ-รัสเซีย
หัวชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ยืนยันจุดยืนของประเทศจีน หลังถูกถามความเห็นต่อคำกล่าวของ มาร์แชล บิลลิงส์ลี ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ด้านการควบคุมอาวุธในวันอังคารที่ผ่านมา (9 มิถุนายน) ซึ่งเรียกร้องให้จีน ‘ทบทวน’ การตัดสินใจนี้อีกครั้ง
“อย่างที่ทุกคนรู้ พลานุภาพนิวเคลียร์ของจีนไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับสหรัฐฯ และรัสเซีย ขณะนี้จึงยังไม่ใช่เวลาอันเหมาะสมที่จีนจะเข้าร่วมการเจรจาลดอาวุธนิวเคลียร์” หัวชุนอิ๋งกล่าว และเสริมว่าผู้ที่ครอบครอบคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเป็นพิเศษและก่อนผู้อื่นในการลดอาวุธนิวเคลียร์
เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบัน หัวชุนอิ๋งระบุว่าสหรัฐฯ ควรให้การตอบรับเชิงบวกต่อคำเรียกร้องของรัสเซียในการยืดระยะเวลาสนธิสัญญาการลดอาวุธทางยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ หรือนิวสตาร์ท (New START) และเดินหน้าลดปริมาณอาวุธนิวเคลียร์ในคลังลงอย่างมาก สร้างเงื่อนไขที่เอื้อให้รัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์แห่งอื่นๆ เข้าร่วมการเจรจาลดอาวุธนิวเคลียร์ระดับพหุภาคี
“แม้ว่าจีนจะไม่เข้าร่วมการเจรจาระดับไตรภาคี แต่ไม่ได้หมายความว่าจีนจะไม่เข้าร่วมในความพยายามด้านลดอาวุธนิวเคลียร์ในระดับโลก” หัวชุนอิ๋งกล่าว และระบุว่าจีนเรียกร้องอย่างแข็งขันให้มีการจัดการประชุมลดอาวุธและใช้กลไกกลุ่มประเทศพี 5 (จีน สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย) สำหรับขั้นตอนที่เป็นรูปธรรม เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดสงครามนิวเคลียร์ รวมถึงธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ของโลก
“สหรัฐฯ กลับกลายเป็นผู้ขัดขวางความพยายามเหล่านี้ และยิ่งถลำลึกไปบนเส้นทางที่ผิดๆ ของการถอนตัวออกจากกลุ่มมากขึ้นทุกที”
หัวชุนอิ๋งระบุว่าสหรัฐฯ ดึงจีนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประเด็นปัญหาระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียด้านการขยายระยะเวลาสนธิสัญญานิวสตาร์ทครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งเป็น “ลูกไม้เก่าๆ ที่สหรัฐฯ มักใช้เพื่อโยนความรับผิดชอบให้ผู้อื่น” แต่ผู้ที่มองสถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านการควบคุมอาวุธของสหรัฐฯ ต่างก็รู้เท่าทันวิธีการนี้ดี
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์