วันนี้ (7 พฤษภาคม) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ด้วย ศบค.มท. ได้รับแจ้งและมีการร้องเรียนว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการเดินทางสัญจรและการประกอบอาชีพ จากการที่จังหวัดออกคำสั่งปิดเส้นทางเข้า-ออกในพื้นที่ของจังหวัด ใช้วัสดุขนาดใหญ่ปิดกั้นเส้นทางคมนาคมสัญจรเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด และเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อมวลชนว่า ส่วนราชการไม่มีการบูรณาการการปฏิบัติ และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ หรืออาจเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดถือปฏิบัติและดำเนินการให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ดังนี้
- ห้ามใช้วัสดุหรือเครื่องกีดขวางขนาดใหญ่ อาทิ ท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ และการทำคันดินเพื่อปิดเส้นทางคมนาคมสัญจรเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด
- ให้จัดให้มีจุดตรวจคัดกรองบริเวณพื้นที่ที่มีคำสั่งปิดเส้นทางเข้า-ออกของจังหวัด โดยให้ดำเนินการให้สอดรับกับข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ข้อ 5 และหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง โดยอาจพิจารณามอบหมายให้ข้าราชการของอำเภอ ข้าราชการหรือพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจคัดกรองดังกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล