ในช่วงที่การท่องเที่ยวเป็นมิตรกับเชื้อไวรัสโคโรนามากกว่ามนุษย์ เพราะการเดินทางในแต่ละครั้งสามารถเป็นสาเหตุของการแพร่เชื้อครั้งใหญ่ได้ การหยุดอยู่กับที่และเว้นระยะห่างทางสังคมจึงเป็นกลวิธีหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรค ทว่า แม้ทางกายภาพเราจะอยู่บ้าน นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ Work from Home ดูซีรีส์ ไถหน้าฟีดเฟซบุ๊กพร้อมฉากกินข้าวแบบเหงาๆ แต่ในทางจิตใจเรากลับเรียกร้องออกไปโบยบิน อยากไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ พบเจอสิ่งใหม่ๆ และต้องการอิสรภาพ (อิสระที่จะไปไหนก็ได้ ทำอะไรก็ได้)
หลังวิกฤตโควิด-19 ผ่านพ้นไป โฉมหน้าการท่องเที่ยวจะไม่เหมือนเดิม หรือถ้าจะกลับมาเหมือนเดิมก็คงใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี กว่าทุกอย่างจะเข้าที่ นักเดินทางจะถามหาความปลอดภัยและความสะอาดมากขึ้น ภาพสายการบินที่มีผู้โดยสารเต็มลำทุกที่นั่งอาจไม่ปรากฏให้เห็นในระยะแรก ฯลฯ และนี่คือสิ่งเราคาดการว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะเป็นไป หลังวิกฤตโควิด-19 ผ่านพ้น
ความสะอาดมาเป็นอันดับหนึ่ง
ไม่ว่าจะเที่ยวแบบไหน พักที่ใด นักท่องเที่ยวจะถามหามาตรฐานความสะอาดมาเป็นอันดับแรก ผู้ประกอบการต่างๆ จะต้องสื่อสารประเด็นนี้กับนักพักผ่อนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการทำความสะอาดสถานประกอบการ หรือมาตรการดูแลแขกที่มาพัก ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจและเชื่อมั่นให้แก่แขก ซึ่งหาทางผู้ประกอบการไม่เน้นย้ำและสื่อสารเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาแล้ว ก็ยากท่ีจะเรียกลูกค้าให้กลับมาใช้บริการได้
ท่องเที่ยวทางเรือจะถูก แต่ยังไม่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวใหม่ๆ มากพอ
ก่อนวิกฤตโควิด-19 อาจกล่าวได้ว่า การเที่ยวเรือสำราญกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น มีเรือลำใหม่จ่อคิวเปิดตัวเต็มไปหมด ทว่า หลังจากวิกฤตผ่านไป ภาพลักษณ์ของเรือสำราญอาจไม่สะอาดมากพอ เนื่องจากในช่วงการระบาด มีเรือหลายลำเป็นต้นเหตุของการแพร่กระจายครั้งใหญ่ เรือจะต้องมีมาตรฐานความสะอาดที่ชัดเจน จับต้องได้ การกินอาหารแบบบุฟเฟต์ตามห้องอาหารอาจไม่ได้รับความนิยม และบริการเสิร์ฟอาหารถึงห้องพักอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า ที่ทำให้นักเดินทางกลับมาเที่ยวทางเรืออีกครั้ง
ราคาที่พักจะถูกลงกว่าเท่าตัว และใช้เวลาเกือบ 2 ปี ในการกลับมาเรตเดิมอีกครั้ง
หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เราจะเห็นว่า ผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมก็ดี โฮสเทลก็ดี ออกมาปรับราคาลดลงชนิดที่ว่าหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ถ้าไม่ใช่สภาวะแบบนี้ หลังวิกฤตสิ้นสุด เจน ฟรายทาก ประธานอาวุโสด้านการวิเคราะห์ข้อมูลของ STR คาดการณ์ว่า ราคาที่พักจะยังคงลดต่อเนื่องไปอีกสักพักใหญ่ๆ กว่าจะดีดตัวกลับคืนสู่ราคาปกติ โดยเขาให้เหตุผลว่า “หลังจากเหตุการณ์ 9/11 หรือสิ้นสุดภาวะถดถอยในปี 2552 อัตราห้องพักในอเมริกาใช้เวลานานเป็น 2 เท่ากว่าขาลง ก่อนจะคืนสู่เรตปกติ” อย่างไรก็ดี ภายใต้ฉากหน้าอันสดใส ฟรายทากเชื่อว่า จะมีโรงแรมเชนหลายแห่งผลัดเปลี่ยนมือ แต่ยังคงดำเนินการภายใต้แบรนด์เดิม
ตั๋วเครื่องบินถูก ที่นั่งโล่ง และทริปแบบธุรกิจจะฟื้นตัวก่อนเพื่อน
เพื่อกระตุ้นให้คนออกมาท่องเที่ยวและใช้เงินกับธุรกิจของตน เฉกเช่นผู้ประกอบการโรงแรม ค่าตั๋วโดยสารของสายการบินต่างๆ จะมีราคาถูกลง มีโปรโมชันลดแลกแจกแถม (เปรียบเปรย) พร้อมทั้งสามารถเปลี่ยนแปลงวันเวลาได้ง่ายขึ้น แม้การกักตัวจะทำให้นักพักผ่อนทั้งหลายกระหายการเดินทาง แต่แน่นอนว่า พวกเขายังคงกังวลเกี่ยวกับความสะอาด และยังคงต้องการการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อความปลอดภัย บรรยากาศระหว่างบินในช่วงแรกจึงไม่แออัด นั่งแบบที่เว้นที่ และลดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกเรือและผู้โดยสารให้มากที่สุด
การกักตัวและเว้นระยะห่างทางสังคมทำให้ผู้คนอัดอั้นและอยากเดินทาง แต่ทริปแบบพักผ่อนจะยังไม่เฟื่องฟูในช่วงแรก การเดินทางเพื่อเจรจาธุรกิจจะฟื้นตัวก่อน เพราะต่างคนก็อยากมุ่งหมายให้ธุรกิจของตนพ้นวิกฤตโดยไว
ส่วนประเด็นปัญหาเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวล้นเมือง การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่เราเคยถกเถียงกันก่อนช่วงโควิด-19 ระบาด จะถูกคิด วิเคราะห์ และทบทวนมากขึ้น
นี่เป็นบางส่วนของโลกท่องเที่ยวที่จะเป็นไปหลังวิกฤตผ่านพ้น หลายผู้ประกอบการจะล้มหายตายจาก หลายผู้ประกอบการจะถือกำเนิดขึ้นจากการระบาดครั้งนี้ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร ผู้ที่ยืนหยัดภายใต้พายุโหมจนผ่านพ้น จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่ง ระยะนี้ถ้าคุณอดใจไม่ไหว อยากไปเที่ยว เราแนะนำให้เปิดอินเทอร์เน็ตท่องโลกจากที่บ้านไปก่อน มีพิพิธภัณฑ์ดีๆ และแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ เปิดให้บริการท่องโลกเสมือนจริงฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายมากมาย ดูไว้ แล้วเก็บไว้เป็น Wish List พ้นระยะกักตัวเมื่อไร เอาลิสต์พวกนี้ปักหมุดไว้แล้วไปเที่ยวกัน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: