วันนี้ (8 เมษายน) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า ตามที่ตนเองและพรรคก้าวไกลได้เคยประเมินเอาไว้ว่าจำนวนแรงงานทั้งหมดในปัจจุบันที่มีอยู่ 38.4 ล้านคน มีแรงงานนอกระบบอยู่ทั้งสิ้น 18.7 ล้านคน โดยอยู่ในภาคบริการและภาคการผลิตที่ถือได้ว่าต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบจากโควิด-19 แบบเต็มๆ รวมกันอยู่ที่ 9.5 ล้านคน และเมื่อรวมกับแรงงานในระบบประกันสังคมที่ยังไม่ได้รับสิทธิการคุ้มครองการว่างงานอีกประมาณ 5 ล้านคนเศษ นั่นหมายความว่าจำนวนประชาชนทั้งหมดที่อยู่ในกลุ่มที่ต้องการการเยียวยามีทั้งสิ้นประมาณ 14.5 ล้านคน
ทั้งนี้ตนจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนมาตรการดังกล่าว เพราะหากประเมินงบประมาณที่ต้องใช้ในการเยียวยาประชาชนจำนวน 9 ล้านคน เป็นระยะเวลา 6 เดือน รัฐบาลต้องใช้งบประมาณอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท และยังมีประชาชนที่เดือดร้อน ต้องร้องขอความช่วยเหลือโดยที่รัฐบาลไม่อาจที่จะช่วยอะไรได้อีกถึง 5.5 ล้านคน สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นผลดีต่อการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปด้วยกัน
จึงอยากให้รัฐบาลเยียวยาเงิน 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน เป็นการเยียวยาแบบถ้วนหน้าที่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกคนจำนวน 14.5 ล้านคนได้รับการเยียวยา ซึ่งกรณีนี้รัฐบาลจะใช้งบประมาณเพียง 217,500 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าถึง 52,500 ล้านบาทด้วยซ้ำ
วิโรจน์กล่าวว่าอยากฝากถึงผู้มีอำนาจว่าการเข้าใจหัวอกประชาชนรากหญ้าไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย หากรัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจตามชุมชนที่หาเช้ากินค่ำ มีอยู่จำนวนไม่น้อยเลยที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับการเยียวยาในครั้งนี้ ด้วยเหตุที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ
“ประชาชนคนไทยทุกๆ คนที่เดือดร้อนต้องได้รับการโอบอุ้มและพยุงเพื่อฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งให้คนอีก 5.5 ล้านคนร้องไห้เสียใจอยู่เบื้องหลังของพวกเรา เสียงร้องไห้ไม่อาจทำให้เราเดินหน้าต่อไปโดยไม่อาจเหลียวหลังมามองดูพวกเขาหรอกนะครับ ทบทวนด้วยครับ ผมขอร้องจริงๆ” วิโรจน์กล่าวในที่สุด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์