วันนี้ (4 เมษายน) บรรยากาศที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารชาวไทยจำนวน 158 คน ที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นรวม 3 เที่ยวบิน จำนวน 103 คน กาตาร์ 11 คน และสิงคโปร์ 44 คน รวมทั้งหมด 158 คน เมื่อคืนนี้ และไม่ยอมกักตัว 14 วัน ตามมาตรการ State Quarantine ได้ทยอยเข้ามารายงานตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน หรือ EOC
ส่วนผู้โดยสารอีก 6 คน มารายงานตัวแล้วเมื่อคืนนี้ หลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ขีดเส้นตายให้มารายงานตัวภายในเวลา 18.00 น.
สำหรับศูนย์ EOC ตั้งอยู่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก ประตู 9 มีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะบันทึกรายชื่อผู้เข้ามารายงานตัว ก่อนนำตัวขึ้นรถไปกักตัวที่โรงแรมใกล้เคียง
ส่วนผู้โดยสารกลุ่มที่ 2 ที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด หากเดินทางถึงภูมิลำเนาแล้ว ให้รายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ที่ศาลากลางจังหวัดทุกแห่ง หากไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษ
ด้าน พล.อ. พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.ท. สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. มีผู้มารายงานตัวทั้งหมด 61 คน และในต่างจังหวัด 8 คน ที่เข้ามารายงานตัวที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมประจำจังหวัดแล้ว
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การดำเนินการทุกอย่างจะเป็นไปด้วยมาตรฐานที่ได้วางไว้ แต่เมื่อวานนี้ยอมรับว่าอาจไม่ราบรื่น เพราะบางกระบวนการผู้โดยสารรอคอยนานกว่าปกติ เนื่องจากต้องจัดหมวดหมู่ เพื่อนำไปสู่สถานกักกันโรค ผู้โดยสารทั้งหมดได้รับความสะดวกและราบรื่นในกระบวนการคัดกรอง
ด้าน พล.ต.ท. สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่า เตรียมเปิดเผยรายชื่อผู้ที่ไม่มารายงานตัวภายใน 18.00 น. วันนี้ ให้สังคมรับรู้ ในกฎหมายจะถูกดำเนินคดี ในฐานความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ. สาธารณสุข โดยมีอัตราโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมย้ำว่า รายชื่อทั้ง 152 คน อยู่ในมือเจ้าหน้าที่ทั้งหมดแล้ว หากพ้นเวลา 18.00 น. ของวันนี้ ตำรวจทุกพื้นที่ทั่วประเทศบังคับกฎหมายอย่างจริงจัง พร้อมเปิดรายชื่อผู้โดยสารจาก 20 จังหวัด ที่เดินทางในเที่ยวบินนี้ หากไม่มารายงานตัว
ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า กระแสข่าวว่ามีผู้โดยสาร 3 คน มีอาการไข้สูงหลบหนีไปกับกลุ่ม 152 คนนั้น ขณะนี้บางคนได้ติดต่อกลับเข้ามารับการกักตัว 14 วันตามขั้นตอนแล้ว ส่วนคนที่ยังไม่ติดต่อเข้ามาก็จะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนใกล้ชิดและผิดกฎหมาย จึงขอให้ความร่วมมือ พร้อมกันนี้ฝากถึงญาติพี่น้องไม่ต้องมารอรับ ให้ประสานพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์มือถือและโซเซียลมีเดียเท่านั้น
ส่วนข้อกังวลของผู้ที่ถูกกักนั้นขอยืนยันว่า ได้มีการแยกผู้ที่มีอาการเข้าข่ายป่วยออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนที่จะพาไปสถานกักโรคที่จัดเตรียม โดยต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้โมเดลเดียวกับการกักตัวของผู้ที่เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
ด้านการท่าอากาศยานฯ เปิดเผยว่า ได้อำนวยความสะดวกในเรื่องของหลุมจอดเครื่องบิน โดยให้มีการใกล้พื้นที่คัดกรองมากที่สุด รวมถึงอำนวยความสะดวกในเรื่องของกระเป๋าและบริการขึ้นรถที่จัดเตรียมไว้ โดยกระทรวงคมนาคม ขสมก. จัดรถไว้บริการนำไปสถานกักโรคที่เตรียมไว้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
