วันนี้ (22 มีนาคม) นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อต่างจังหวัดที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวตลอดรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า เดิมทีผู้ป่วยส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และถ้าหากไม่มีการลงมือทำอะไรสักอย่าง ตัวเลขผู้ป่วยที่พบในต่างจังหวัดจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“สิ่งที่รัฐบาลหรือ กทม. มีคำสั่งให้หยุดงานเป็นเวลา 3 สัปดาห์ มีวัตถุประสงค์หลักคือให้อยู่บ้าน เพื่อที่จะได้ไม่สร้างความเสี่ยงไปแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น ส่วนใครที่อยู่ในช่วงป่วยเล็กๆ น้อยๆ หรือไข้หวัดทั่วไปก็จะหายได้ในช่วงนี้ ฉะนั้นในช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้กรุเทพฯ เป็นเมืองปลอดเชื้อ ไม่มีการเพิ่มเชื้อไปมากกว่านี้ แต่ถ้าหากใครที่ยังเดินทางไปในที่ที่มีคนจำนวนมาก ก็เสี่ยงที่จะไปเพิ่มเชื้อ
“หลายคนอาจจะยังอยู่ในภาวะอาการที่แสดงออกน้อย หรืออยู่ในระยะฟักตัว พอเดินทางไปถึงต่างจังหวัด เราก็มีโอกาสที่จะไปแพร่เชื้อให้กับคนที่อยู่ที่บ้านในต่างจังหวัด ซึ่งจะกลายเป็นเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าในกรุงเทพฯ เสียอีก หากใครเข้าใจในวัตถุประสงค์ก็จะรู้ว่า ช่วงนี้ไม่ใช่วันหยุดพิเศษ ที่จะให้เดินทางกลับต่างจังหวัด เพราะระหว่างเดินทางเราอาจเป็นผู้ได้รับเชื้อจากคนอื่น ในขณะเดียวกันถ้าเราเป็นผู้ติดเชื้อ เราอาจแพร่เชื้อให้คนอื่นได้” นายแพทย์โสภณ กล่าว
ในส่วนของตัวเลขผู้ป่วยยืนยันตั้งแต่วันที่ 19-22 มีนาคม 2563 มีดังนี้
- 19 มีนาคม 2563 พบผู้ป่วยใน กทม. 213 ราย ส่วนต่างจังหวัดพบ 59 ราย
- 20 มีนาคม 2563 พบผู้ป่วยใน กทม. 247 ราย ส่วนต่างจังหวัดพบ 75 ราย
- 21 มีนาคม 2563 พบผู้ป่วยใน กทม. 284 ราย ส่วนต่างจังหวัดพบ 127 ราย
- 22 มีนาคม 2563 พบผู้ป่วยใน กทม. 363 ราย ส่วนต่างจังหวัดพบ 236 ราย
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงขอความร่วมมือผู้ทำงานในสถานที่ที่ถูกสั่งปิด อย่าเดินทางกลับภูมิลำเนา เพราะคุณอาจนำเชื้อโรคไปแพร่ให้คนต่างจังหวัด คนใกล้ชิดในครอบครัว
อีกทั้งคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้ส่งหนังสือด่วน ลงวันที่ 21 มีนาคม 2563 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ขอความร่วมมือจัดทำแผนปฏิบัติการค้นหา เฝ้าระวัง และป้องกันโรคระดับอำเภอและหมู่บ้าน หลังจากที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว เนื่องจากพบการเพิ่มของจำนวนผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ประชาชนส่วนหนึ่งเดินทางเพื่อกลับภูมิลำเนา โดยให้ทุกจังหวัดดำเนินการดังนี้
- จัดตั้งทีมอาสาโควิด-19 ระดับอำเภอและหมู่บ้าน เพื่อดำเนินการค้นหาและเฝ้าระวัง
- จัดทำฐานข้อมูลของผู้เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มาถึงภูมิลำเนา ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
- ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้เดินทางกลับมาจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อแยกตัวสังเกตอาการไข้ และอาการทางเดินหายใจทุกวัน และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้อื่นในที่พำนักหรือที่พักอาศัยจนครบ 14 วัน นับจากวันที่เดินทางมาถึงภูมิลำเนา
- แจ้งผู้เดินทางกลับมาจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ดังต่อไปนี้ ไม่รับประทานอาหารและใช้ภาชนะร่วมกับผู้อื่น, ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว หมอน ผ้าห่ม แก้วน้ำ ช้อนส้อม, ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์, หลีกเลี่ยงการพูดคุย ใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง, หากมีไข้และอาการทางเดินหายใจ ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่โดยทันที
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ thestandard.co/coronavirus-coverage
และอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของโรคโควิด-19 ได้ที่ www.facebook.com/thestandardth
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์