วันนี้ (19 มีนาคม) นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยกับ THE STANDARD ว่า เมื่อวันพุธที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบ (WTI) ลดลงกว่า 24.4% ลงสู่ระดับ 20.37 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ถือว่าต่ำที่สุดในรอบหลายปี สาเหตุหลักมาจากตลาดวิตกกังวล (Panic) ต่อการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่ ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันโลกยังเจอปัจจัยท้าทายจากซัพพลายน้ำมันที่ยังล้นตลาด ตั้งแต่ซาอุดีอาระเบีย ไม่มีการลดการผลิตน้ำมันและมีกระแสว่า อาจเพิ่มกำลังการผลิตมาอยู่ที่ 12-13 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน
“จากทั้งหมดนี้กดดันราคาน้ำมันโลกปรับลดลงอย่างรวดเร็ว แต่มองว่า จะเป็นช่วงระยะสั้นเท่านั้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดีขึ้น คาดว่าจะทำให้ราคาน้ำมันกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งราคาน้ำมันดิบที่ลดลงขณะนี้ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และไม่น่าจะปรับลดลงมากกว่านี้”
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ลดลงจะอยู่ในระยะสั้น เพราะเป็นราคาที่ผู้ประกอบการกว่า 50% ของตลาด อยู่ในสถานะขาดทุน ดังนั้น อาจจะเริ่มเห็นคนหยุดการผลิตน้ำมัน ซึ่งจะช่วยลดซัพพลายในตลาดลงได้ ขณะที่หากมีการประชุมด่วนของกลุ่ม OPEC เรื่องการลดอัตราการผลิตลงมา จะช่วยลดซัพพลายในตลาดได้อีกทาง
ขณะที่ผลกระทบต่อประเทศไทยจะส่งผลโดยตรงกับกลุ่มผู้ประกอบการผลิตและสำรวจที่อิงราคาน้ำมันโลก เช่น PTTGC และกลุ่มโรงกลั่น
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ thestandard.co/coronavirus-coverage
และอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของโรคโควิด-19 ได้ที่ www.facebook.com/thestandardth
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล