จากกรณีมีชายคนหนึ่งถูกระบุว่ากักตุนหน้ากากอนามัย ส่งขายนายทุนจีน และโชว์ว่ามีความสนิทสนมทีมงานรัฐมนตรีคนหนึ่ง โดยพบว่ามีภาพและคลิปโชว์กล่องหน้ากากอนามัยจำนวนมาก ที่ระบุมีหน้ากากหลายล้านชิ้นส่งขาย โดยบอกว่า “มีเยอะ ไม่ต้องห่วง ใครอยากได้ขอให้มีเงินมาเลย” พร้อมกับระบุราคาด้วยว่า ชิ้นละ 14 บาท ซึ่งมีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าทีมงานรัฐมนตรีคนดังกล่าวคือ ‘พิตตินันท์ รักเอียด’ คณะทำงานของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ร.อ. ธรรมนัส นัดสื่อมวลชนแถลงข่าวด่วนที่รัฐสภา เกียกกาย ชี้แจงยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย รวมทั้งไม่เคยรู้จักกับคนขายหน้ากาก ส่วนผู้ติดตามคนดังกล่าวก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ร.อ. ธรรมนัส ยืนยันว่า ผู้ที่ลงเฟซบุ๊กขายหน้ากากชื่อ ‘ศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี’ ตนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยติดต่อ และไม่เคยเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเขา
ส่วน ‘พิตตินันท์ รักเอียด’ เป็นเพียงคณะทำงาน ไม่ใช่ผู้ติดตาม และตนไม่เคยรู้จักมาก่อนหน้านี้
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมไม่ได้สอบถามเขาโดยตรง เพราะว่าไม่มีเบอร์ติดต่อ แต่ได้ให้ทีมงานซึ่งได้นำชื่อของ พิตตินันท์ รักเอียด เข้ามาเป็นคณะทำงาน ยืนยันว่าไม่ใช่ผู้ติดตาม แต่เป็นคณะทำงานซึ่งเป็นอดีตผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส. สุราษฎร์ธานี เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตอนนั้นได้รับรายงานว่า พิตตินันท์มีคะแนนดีจึงอยากให้ทำงานในพื้นที่ต่อ และมีการขอสมัครมาเป็นคณะทำงาน จึงตั้งเป็นคณะทำงานดูแลในพื้นที่เฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี”
ทั้งนี้ ได้ให้ทีมงานสอบถามแล้วว่าได้ไปรู้จักกับ ‘ศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี’ ได้อย่างไร ปรากฏว่าได้มีการนัดเจอกันครั้งแรกที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ด้วยเหตุผลว่าจะไปคุยเจรจากันเรื่องการเอาหน้ากากไปแจกชาวบ้านในพื้นที่ ข้อเท็จจริงไม่มีการซื้อขายหน้ากากอย่างไรเลย
โดยในเรื่องนี้ได้ให้พิตตินันท์ ไปแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วงเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้ไปแจ้งความเอาผิดกับ ‘ศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี’ แล้ว
“อยากกราบเรียนว่า ผมไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับขบวนการขายหน้ากาก ซึ่งผมได้ประสานกับ สภ.หนองปรือ ชลบุรี แล้ว หากพบว่ามีการกักตุนหน้ากากจริง ผมนี่แหละจะนำไปทลายตรงนี้เอง” ร.อ. ธรรมนัส กล่าว
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า ได้ให้คณะทำงานตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของพิตตินันท์ หากมีความผิดจริงจะไม่เอาไว้ ใครก็ตามที่เป็นคณะทำงานผม หากไปเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย ผมจะไม่เลี้ยงเลยคนพวกนี้
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบว่าเขามีหน้ากากอนามัยจำนวนกว่า 200 ล้านชิ้นจริง หรือว่าแค่โม้ แต่ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเขามีหน้ากากอนามัยมากขนาดนั้นจริง คิดว่าเขาเป็นคนที่อยากดังมากกว่า รวมถึงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่า บุคคลนี้มีเจตนาเบื้องหลังอะไรหรือไม่
นักข่าวถามว่าเรื่องนี้จะมีผลต่อเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตนอยู่บนโลกความเป็นจริง และอาจจะเป็นโชคร้ายของศรสุวีร์ เดี๋ยววันนี้รู้เลยว่ามีโรงงานจริงหรือไม่ ซึ่งตนได้มีการตรวจสอบในทางลับอยู่ และเรื่องนี้ได้ชี้แจงกับนายกรัฐมนตรีแล้ว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์