เชื่อว่านี่คงไม่ใช่ข่าวที่เหล่าซิตี้เซน (Citizens) หรือแฟนบอลสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยากได้ยินสักเท่าไร เมื่อสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) ได้ประกาศลงโทษทีมเรือใบสีฟ้า ห้ามเข้าร่วมการแข่งขันรายการฟุตบอลสโมสรยุโรปทุกรายการเป็นเวลา 2 ฤดูกาล (2020/21 และ 2021/22) และสั่งปรับเป็นเงิน 30 ล้านยูโร หลังตรวจพบว่าพวกเขากระทำผิดกฎทางการเงิน (Financial Fair Play)
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับช่วงเช้ามืด 15 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย) โดยทางสมาคมฟุตบอลยุโรปได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดดังนี้
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เริ่มพิจารณาคดีตั้งแต่ 22 มกราคมที่ผ่านมา จากข้อมูลหลักฐานทั้งหมดสามารถสรุปได้ว่า สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้กระทำผิดด้านกฎทางการเงิน (Financial Fair Play) และใบอนุญาตยืนยันการเป็นสโมสรฟุตบอลของยูฟ่า (UEFA Club Licensing) ขั้นร้ายแรง
เนื่องด้วยสโมสรมีพฤติการณ์ที่ไม่ชอบ โดยเฉพาะการที่ข้อมูลบัญชีของสโมสรที่ส่งให้กับทางยูฟ่าตั้งแต่ปี 2012-2016 พบว่า ‘มีรายได้จากสปอนเซอร์เกินจริง’ นอกจากนี้สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังไม่ยินยอมให้ความร่วมมือใดๆ ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงกับทีมพิจารณาคดี
อย่างไรก็ดี ทางยูฟ่ายืนยันว่าระหว่างนี้พวกเขายังเปิดช่องให้ทีมเรือใบสีฟ้าสามารถใช้สิทธิ์การยื่นอุทธรณ์กับศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) ได้อย่างเต็มที่ โดยที่พวกเขาจะยังไม่ขอให้ความเห็นใดๆ เพิ่มเติม
ด้านสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฐานะผู้เสียหาย ได้ปล่อยแถลงการณ์ออกมาตอบโต้บทลงโทษของทางยูฟ่า โดยบอกว่าพวกเขาผิดหวังแต่ไม่รู้สึกประหลาดใจกับการประกาศแบนดังกล่าว และจะดำเนินการเร่งยื่นคำร้องอุทธรณ์ไปยังศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) โดยเร็วที่สุด
ปัจจุบัน สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รั้งตำแหน่งอยู่ในอันดับที่ 2 ของลีก มีคะแนนตามหลังจ่าฝูงอย่างลิเวอร์พูลที่ 21 แต้ม หลังลงแข่งเท่ากันที่ 25 นัด ขณะที่ในรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขามีคิวจะลงแข่งกับราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ทีมดังจากสเปนในรอบ 16 ทีมสุดท้ายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ และ 18 มีนาคมนี้
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ถ้วยบิ๊กเอียร์จากรายการแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกถือเป็นโทรฟีที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้พยายามไขว่คว้ามาครอบครองให้ได้โดยตลอด ซึ่งผลงานที่ดีที่สุดคือการผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศในฤดูกาล 2015-2016 ก่อนจะพลาดท่าพ่ายให้กับเรอัล มาดริด แชมป์ในฤดูกาลดังกล่าวด้วยสกอร์ 0-1 ไปอย่างน่าเสียดาย
น่าสนใจว่าหากสโมสรถูกลงดาบจริง และส่งผลต่อการลงแข่งในรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก (ยังต้องรอพิจารณาผลจากการยื่นอุทธรณ์) ผลกระทบที่ตามมาจะทำให้สตาร์ในทีม หรือแม้แต่ตัวผู้จัดการอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา เลือกตัดสินใจทางออกในอนาคตของพวกเขาเช่นไร เพราะการถูกแช่แข็งเป็นระยะเวลา 2-3 ปีเต็มย่อมทำให้โอกาสที่พวกเขาจะเดินหน้าหาเกียรติยศมาประดับอาชีพการค้าแข้งและเสริมบารมีการเป็นโค้ชลดลงตามไปด้วยเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผูกปีเข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 9 ฤดูกาลเต็ม ก็จะต้องเผชิญหน้ากับบทพิสูจน์ที่ท้าทายเช่นกันว่า เกียรติยศและชื่อเสียงที่สั่งสมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะหอมหวนมากพอที่จะดึงดูดนักเตะฝีเท้าดีและสตาร์ดังๆ ให้ตบเท้าเข้ามาร่วมทีมได้อีกหรือไม่ โดยเฉพาะในวันที่พวกเขาหมดสิทธิ์ลงแข่งฟุตบอลรายการยุโรป 2 ฤดูกาล
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: