กระทรวงการคลังจีนประกาศลดกำแพงภาษีสินค้าส่งออกของสหรัฐฯ มูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ลงครึ่งหนึ่ง โดยสินค้าบางรายการจะปรับลดจากอัตรา 10% เหลือ 5% และอีกส่วนหนึ่งลดจากอัตรา 5% เหลือ 2.5% โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 13.01 น. ของวันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป
สำหรับสินค้าสหรัฐฯ ที่ลดภาษีจาก 10% เหลือ 5% นั้น เป็นสินค้าที่จีนเริ่มเรียกเก็บภาษีที่อัตราใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2019 อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังจีนไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจนว่าสินค้าใดบ้างที่อยู่ในรายการลดหย่อนภาษี
แถลงการณ์ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์กระทรวงการคลังระบุว่า การลดภาษีครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ให้มั่นคงยิ่งขึ้น หลังสหรัฐฯ ตัดสินใจลดกำแพงภาษีสินค้าส่งออกของจีนมูลค่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์ จากอัตรา 15% เหลือ 7.5% ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
รัฐบาลจีนระบุว่า การปรับนโยบายภาษีครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับทิศทางความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยจีนหวังที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อขจัดกำแพงภาษีที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด
ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศดีขึ้นหลังจากที่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟส 1 กันได้ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีของจีนที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ทั้งสองชาติยังต้องเจรจาดีลการค้าเฟส 2 กันอยู่ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน แต่ก็มีนักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า สงครามการค้าอาจยืดเยื้อไปจนถึงหลังการเลือกตั้ง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- https://www.marketwatch.com/story/china-to-cut-tariffs-in-half-on-75-billion-of-us-goods-2020-02-05
- https://www.cnbc.com/2020/02/06/china-to-halve-tariffs-on-hundreds-of-us-goods.html