ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า จากพันธกิจที่ FETCO เป็นตัวแทนภาคเอกชนเพื่อร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาตลาดทุนไทย รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนนโยบายระหว่างรัฐและเอกชน ปี 2563 นี้จะดำเนินการโดยมีแผนงาน 9 ข้อ ได้แก่
- ผลักดันการขยายฐานนักลงทุนในตลาดทุน
- โครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ร่วมกับกระทรวงการคลังทำหน้าที่ Investor Relations แก่นักลงทุน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของประเทศ
- สนับสนุน SMEs และ Startups ให้เข้าถึงตลาดทุน
- สนับสนุนการจัดทำโครงการสร้าง และพัฒนาบุคลากรรองรับภาคตลาดทุน
- สนับสนุน Capital Market Digital Roadmap
- ผลักดันความร่วมมือภาคตลาดทุนเพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ (ESG Collective Supporting)
- สนับสนุนการพัฒนาทักษะทางการเงิน (Financial Literacy)
- เสนอความคิดเห็นและให้คำปรึกษาต่อภาครัฐเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทย รวมถึงการปรับ FETCO เป็นนิติบุคคล
- ติดตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย และแผนงานภาคตลาดทุน
“ปัจจุบันนักลงทุนในตลาดทุนไทยรวมทุกประเภทมีอยู่ราว 3 ล้านราย ถือว่าน้อยมากไม่ว่าจะเทียบกับจำนวนประชากรไทยเกือบ 70 ล้านคน หรือเทียบกับคนทำงานที่เสียภาษี ดังนั้น เราอยากให้มีการออมในตลาดทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพราะนักลงทุนจะหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ ปี 2563 ทาง FETCO เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาตลาดทั้งในทางดิจิทัล รวมถึงผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีผลบังคับใช้ เช่น
- พรบ.ทรัสต์ เพื่อการจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคล และลดการนำทรัพย์สินออกไปบริหารนอกประเทศ
- พรบ.มหาชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการธุรกิจ
- พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เพื่อจัดให้มีการออมภาคบังคับสำหรับแรงงานในระบบ การปรับปรุงกฎหมายที่ไม่สามารถลงทุนในตลาดทุนได้ เช่น สมาคม มูลนิธิ เป็นต้น ให้สามารถลงทุนได้หลากหลายมากขึ้น
นอกจากนี้ยังสนับสนุนการลงทุนในกองทุนเพื่อการออมระยะยาว (SSF) เพื่อให้นักลงทุนได้เข้าใจ และเห็นความสำคัญของการลงทุนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสนับสนุน SMEs และ Startups ให้เข้าถึงตลาดทุน
“ภาวะการณ์เปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย และทิศทางการดำเนินการธุรกิจ โดยคำนึงถึงความยั่งยืนทางธุรกิจ มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนระยะยาว ดังนั้น ภาคตลาดทุนจำเป็นต้องพิจารณาเตรียมพร้อม และเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์