ร่างกฎหมาย Brexit ของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผ่านความเห็นชอบในรัฐสภา ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายในกระบวนการนิติบัญญัติ หลัง ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลโหวตคว่ำการแปรญัตติในวุฒิสภา ทำให้ขณะนี้เหลือเพียงการลงพระปรมาภิไธยรับรองโดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และการโหวตอนุมัติของรัฐสภายุโรป ร่างกฎหมายหย่าร้างกับสหภาพยุโรป (Brexit) ก็จะมีผลบังคับใช้
เมื่อกฎหมาย Brexit มีผลบังคับใช้แล้ว สหราชอาณาจักรจะเดินหน้าแยกตัวจาก EU โดยมีข้อตกลงรองรับในวันที่ 31 มกราคม ซึ่งทันกำหนดเส้นตายใหม่ที่สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปกำหนดร่วมกัน
เมื่อคืนนี้ (22 มกราคม) สมาชิกวุฒิสภา หรือสภาขุนนางของสหราชอาณาจักร พยายามแปรญัตติโดยแก้เนื้อหาในร่างกฎหมาย 5 ข้อ ซึ่งรวมถึงบทบัญญัติใหม่เกี่ยวกับสิทธิผู้อพยพเด็ก แต่ถูก ส.ส. รัฐบาลปฏิเสธ
สำหรับการพิจารณาร่างกฎหมายในรัฐสภายุโรปจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะลงพระปรมาภิไธยรับรองภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้
ด้านจอห์นสันได้กล่าวแสดงความยินดีหลังร่างกฎหมายฉบับประวัติศาสตร์ผ่านความเห็นชอบในรัฐสภาในท้ายที่สุด หลังมีการตีกลับไปกลับมาเหมือนปิงปองระหว่างสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาสามัญกับวุฒิสภา
“มีหลายครั้งที่เรารู้สึกว่าจะไม่มีทางก้าวข้ามเข้าเส้นชัย Brexit ได้ แต่ตอนนี้เราทำสำเร็จแล้ว” จอห์นสันกล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: