เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มทุนคิง เพาเวอร์ ได้จัดงานแถลงข่าวจัดการแข่งขันฟุตบอล King Power’s Cup ครั้งที่ 2 โดยเปิดให้ทีมจากโรงเรียน 205 แห่งทั่วประเทศ ทั้งหมด 6 ภาค ลงแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ชิงเงินรางวัลทุนการศึกษาสูงสุด 1 ล้านบาท
ขณะเดียวกันทางทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของคิง เพาเวอร์ ซึ่งนำโดย ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชจากเลสเตอร์ ซิตี้ จะคอยติดตามชมการแข่งขันตลอดทัวร์นาเมนต์ เพื่อเฟ้นหา 10 เยาวชนไทยเข้าร่วมโครงการ Fox Hunt รุ่นที่ 3 ที่จะได้รับทุนการศึกษาเข้าฝึกทักษะฟุตบอลมืออาชีพที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า พอใจกับภาพรวมของโครงการตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเป้าหมายของโครงการในปีนี้ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย
“ทัวร์นาเมนต์นี้เราอยากจัดเพื่อให้เห็นศักยภาพของเยาวชนไทยทุกภูมิภาค เรามีข้อมูลมาแล้ว 2-3 ปี จึงได้ปรับปรุงเแก้ไขทัวร์นาเมนต์ให้เจอคนที่มีความสามารถที่จะคัดตัวไป Fox Hunt 10 คนที่ประเทศอังกฤษ”
ฟุตบอล King Power’s Cup 2017 จะเริ่มแข่งขันเกมแรกที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ โดยก่อนที่นกหวีดแรกจะเริ่มขึ้น THE STANDARD ได้สอบถาม มร. อลิสเตอร์ ฮีท หัวหน้าผู้ฝึกสอนเยาวชน Fox Hunt เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ ผู้ที่จะมาเข้าร่วมคัดเลือกในครั้งนี้ ถึงการเก็งข้อสอบก่อนลงสนาม เพื่อโอกาสเป็นหนึ่งใน 10 นักเตะของ Fox Hunt รุ่นที่ 3
เด็กที่พวกคุณค้นหาคือใคร?
“เรามองหาเด็กที่มีความสามารถในการควบคุมบอล นี่เป็นเรื่องสำคัญ แต่จริงๆ แล้ว เราต้องการเด็กที่มีทัศนคติที่ดี เพราะการที่พวกเขาจะมาใช้ชีวิตในเลสเตอร์ถึง 2 ปีครึ่งเป็นอะไรที่ยากกว่าที่คุณคิด เพราะต้องทิ้งบ้านเกิดมาพบกับวัฒนธรรมใหม่ ผมคิดว่าการที่มีทักษะฝีมือฟุตบอลถือว่าเป็นเรื่องดี แต่การมีทัศนคติที่ดีและความมุ่งมั่นต้องการที่จะประสบความสำเร็จก็สำคัญไม่แพ้กัน”
ทัศนคติที่ดีคือ?
“หลังจากที่เราได้เด็กไทย 2 รุ่นที่ผ่านมา ผมคิดว่าเด็กวัย 15 ปี แม้พวกเขาจะอายุน้อย แต่พวกเขารู้ว่าพวกเขาต้องการที่จะทำอะไรในชีวิต และเมื่อพวกเขารู้เป้าหมายแล้ว พวกเขาจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อไปถึงเป้าหมายนั้น เพราะการใช้ชีวิตวัย 15 ปีในเลสเตอร์นั้นไม่ง่าย แต่หากพวกเขาเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่ต้องทำเพื่อหนทางไปสู่เป้าหมาย ก็จะช่วยให้พวกเขาทำผลงานได้ดี”
เด็กไทยเป็นอย่างไร
“เด็กไทยมีเทคนิคที่ดี ดีกว่าเด็กอังกฤษบางคน แต่ทางด้านแท็กติก ความแข็งแกร่ง และวิธีการคิด อาจยังไม่สูงเท่านักฟุตบอลในอังกฤษ แต่ที่ผ่านมา 2 กลุ่ม เราก็เห็นว่ามีหลายอย่างที่เด็กไทยทำได้ดีกว่าเยาวชนอังกฤษ เพราะฉะนั้นแผนการพัฒนากำลังไปได้ดี และเชื่อว่าเยาวชนไทยยกระดับมาตรฐานใกล้เคียงอังกฤษมากขึ้นเรื่อยๆ”
ฝากอะไรถึงผู้ปกครอง
“สนับสนุนลูกๆ ในสิ่งที่พวกเขาต้องการทำ ให้กำลังใจเขา แต่เราต้องบอกพวกเขาให้เตรียมพร้อมพบเจอกับงานหนักที่อังกฤษ พวกเขาต้องเข้าใจว่าพวกเขามาที่อังกฤษเพื่อทำงานอย่างหนัก เพื่อสร้างโอกาสในอาชีพฟุตบอล ซึ่งตอนนี้เราได้เห็นจากรุ่น 1 แล้วว่าพวกเขาได้รับโอกาสไปค้าแข้งในยุโรปที่เบลเยียม”
โครงการ Fox Hunt ของกลุ่มทุนคิง เพาเวอร์ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2015 โดยเยาวชน 10 คนแรกที่กลับมาจากการเดินทางตลอด 2 ปีครึ่ง มี 4 คนได้ไปค้าแข้งกับสโมสรฟุตบอลเอาด์ เฮเวอร์เลย์ เลอเวน หรือ OHL ในดิวิชัน 2 ของลีกเบลเยียม รวมถึงติดทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีอีก 3 คน
สำหรับการแข่งขันในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากกรมพลศึกษาในการรับรองการแข่งขัน รวมถึงกรรมการผู้ตัดสินที่ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยให้เยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันได้ประสบการณ์แบบมืออาชีพที่สุดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา เผยว่า การพัฒนาฟุตบอลผ่านโครงการ Fox Hunt เป็นเพียง 1 ใน 4 เสาหลักของ King Power Thai Power ที่จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมและพัฒนาพลังของคนไทยในทุกมิติ โดยที่ผ่านมาการลงทุนของคิง เพาเวอร์ ใช้งบประมาณในการส่งเยาวชนไทยไปฝึกฝนทักษะที่เลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ตกคนละ 15 ล้านบาท รวมทั้งหมด 10 คน 150 ล้านบาท
โดย King Power’s Cup 2017 จะเริ่มแข่งขันภาคตะวันออกเฉียงเหนือในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ และจะแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 17 ธันวาคม ที่สนามเทพหัสดิน กรุงเทพมหานครต่อไป