เป็นระยะเวลา 5 ปีแล้ว ที่ RS ได้ขยายธุรกิจจากเพลงและสื่อไปสู่ ‘ธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง (Multi Platform Commerce)’ จากรายได้เริ่มต้น 300 ล้านบาท ขยับมาครองสัดส่วนรายได้มากกว่า 50% เรียบร้อยแล้ว ทิ้งห่างธุรกิจดั้งเดิมแบบไม่เห็นฝุ่น
เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) อธิบายว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ได้ประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ทีมงานได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ เข้าใจสภาพแวดล้อมของการทำธุรกิจ ตลอดจนเข้าใจลูกค้าลึกซึ้งมากขึ้น ทำให้ RS เห็นว่า ยังมีช่องทางในตลาด ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญทางธุรกิจอีกมาก
“ที่ผ่านมาเรายังใช้โอกาสได้ไม่เต็มที่ แต่เราก็มีการเตรียมพร้อมพอสมควร ปีที่แล้วมีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ปรับทีมบริการ เติมทีมงานใหม่ๆ ตลอดจนลงทุนเรื่องเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ เราคิดว่าวันนี้เราพร้อมแล้วสำหรับ New S Curve นี่ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในรอบการทำธุรกิจ 37 ปีของ RS”
แผนธุรกิจประจำปี 2020 จะเกิดขึ้นภายใต้ 4 เรื่องหลัก ได้แก่
- Entertainmerce
- Data Driven Company
- Strategic Partnership
- M&A
เรื่องแรก ‘Entertainmerce’ RS มองธุรกิจ Commerce เป็นธุรกิจหลักที่จะขับเคลื่อนในอนาคต โดยธุรกิจนี้จะอยู่ภายใต้แบรนด์ RS Mall เป็นแพลตฟอร์มที่จำหน่ายสินค้าและบริการในหลากหลายกลุ่ม โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มแฟชั่น เครื่องประดับ, กลุ่มความสวยความงาม, กลุ่มอาหาร อาหารเสริม, กลุ่มของใช้ในบ้าน และกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จับกลุ่มผู้หญิงอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ
ปีนี้ธุรกิจ Commerce นอกเหนือจากการขายสินค้า จะขยับไปสู่ธุรกิจบริการ โดยจะเริ่มในกลุ่มท่องเที่ยวก่อน ขณะเดียวกัน ตัวสินค้าได้วางแผนที่จะเปิดตัวใหม่เดือนละ 30 ชนิด (SKU) มีทั้งสร้างแบรนด์ของตัวเองและเอ็กซ์คลูซีฟ ที่น่าจับตาคือ ภายในไตรมาส 3 เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ ‘ยาสีฟัน’ หลังข้อมูลจากยูโรมอนิเตอร์ระบุว่า ปี 2020 ตลาดนี้จะมีมูลค่า 1.2 หมื่นล้าน และช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา เติบโตกว่า 30%
‘ยาสีฟัน’ นับเป็นสินค้าตัวแรกของ RS ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้เวลาเตรียมการมาแล้ว 2 ปี และเป็นสินค้าตัวแรกที่ทำร่วมกับกลุ่ม BTS ซึ่งปีที่ผ่านมาได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ โดยจะเน้นจับกลุ่มระดับ B ขึ้นไป เบื้องต้นจะจำหน่ายเฉพาะในช่องทางของตัวเองก่อน หลังจากนั้นจึงขยับไปสู่แมส
RS ตั้งเป้าธุรกิจ Commerce จะมีลูกค้า 1.6 ล้านคน เติบโต 20% อัตราการซื้อซ้ำ 2.5 ครั้งต่อปี เติบโต 38% จากปีก่อนอยู่ที่ 1.8 ครั้งต่อปี และมียอดซื้อต่อครั้งอยู่ที่ 2,500 บาท เติบโตขึ้นเล็กน้อย
เรื่องที่ 2 ‘Data Driven Company’ จากการทำธุรกิจ Commerce ทำให้ RS มี Big Data อยู่ในมือจำนวนมาก เฮียฮ้อบอกว่า นี่ถือเป็นขุมทรัพย์สำหรับการทำธุรกิจในอนาคต ซึ่งสามารถนำข้อมูลมาสร้างสินค้า บริการ หรือก้าวเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ ได้
ข้อมูลที่ว่านี้ไม่ได้มาจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเดียว แต่ยังมาจากสื่อที่อยู่ในมือ ทั้งคนดูทีวี 2.6 ล้านคนต่อวัน ซึ่งนับในทุกช่องทางและเฉพาะช่วงเวลาที่รายการของธุรกิจ Commerce ออกอากาศ คนฟังวิทยุจากคลื่นคูลฟาเรนไฮต์ 2 แสนคนต่อวัน เฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมง รวมไปถึงกิจกรรมออนกราวด์ เช่น คอนเสิร์ตที่มีผู้มีส่วนร่วมนับแสนคน
เรื่องที่ 3 ‘Strategic Partnership’ เฮียฮ้อย้ำเสมอว่า ธุรกิจอยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องมีเพื่อนที่แข็งแรงด้วย ตลอดปีที่ผ่านมา RS จึงเดินหน้าหาพันธมิตรใหม่ๆ ทั้งช่องไทยรัฐทีวี, ช่องเวิร์คพอยท์ทีวี และช่องอมรินทร์ทีวี ซึ่งเป็นช่องล่าสุดที่เข้าร่วม และยังมีกลุ่ม BTS และตระกูลศรีวัฒนประภาแห่งคิง เพาเวอร์ มาถือหุ้นอีกด้วย สำหรับในปีนี้เฮียฮ้อบอกว่า จะเดินหน้ากลยุทธ์นี้ต่อไป แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีใครบ้าง
สุดท้าย M&A กำลังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบฐานะทางการเงิน (ดิวดิลิเจนซ์) ซึ่งจะมีทั้งธุรกิจดั้งเดิมหรือธุรกิจใหม่ แต่ต้องเชื่อมกับโมเดลธุรกิจเดิมด้วย โดยยังไม่สามารถบอกได้ว่าในปีนี้จะมีดีลอะไรเกิดขึ้นบ้าง
สำหรับปี 2020 RS ตั้งเป้ารายได้ 5,250 ล้านบาท เติบโตราว 30% จากปีก่อน ในจำนวนนี้ 60% หรือ 3,200 ล้านบาท จะมาจากธุรกิจ Commerce จากกลยุทธ์ต่างๆ ที่กล่าวไปข้างต้น
ที่เหลือ 25% หรือ 1,250 ล้านบาท มาจากช่อง 8 ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีการปรับโครงสร้างภายใน เน้นพัฒนาคอนเทนต์ข่าว ละคร กีฬา เพื่อเพิ่มเรตติ้ง โดยในส่วนของงบลงทุน จะไม่ใช้เกินกว่าปีละ 600 ล้านบาท หากมากกว่านี้จะกลายเป็นเจ็บตัวเปล่าๆ
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาโมเดลการทำละครแบบใหม่ โดยจะเข้าไปคุยกับสปอนเซอร์ตั้งแต่เริ่มเขียนบท เพื่อดูว่าจะสามารถไทอินสินค้าช่วงไหนได้บ้าง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี บางเรื่องรายได้จากสปอนเซอร์แทบจะครอบคลุมต้นทุนการผลิต 1.5 ล้านบาทต่อตอน ขณะนี้มีการทำไปแล้ว 2-3 เรื่อง
อีก 5% หรือ 300 ล้านบาท มาจากคลื่นคูลฟาเรนไฮต์ และ 10% สุดท้าย ประมาณ 500 ล้านบาท มาจากเพลงและอื่นๆ ในปีนี้เฮียฮ้อวางแผนจะทำคอนเสิร์ต 5-6 ครั้ง เฉลี่ยไตรมาสละครั้ง โดยจะเลือกศิลปินที่มั่นใจว่าขายบัตรหมดแน่ๆ เบื้องต้นในเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นคอนเสิร์ตแดน-บีม ถัดไปจะมีกามิกาเซ่ และ ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง ฯลฯ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล