ธุรกิจสตาร์ทอัพในไทยมีอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งความใหม่ การสนับสนุนจากภาครัฐ หรือเกณฑ์พื้นฐานอย่างภาษีที่ไม่ได้เอื้อต่อการเติบโตมากนัก ทำให้หลายบริษัทแม้จะให้บริการในไทย แต่ก็เลือกไปจดทะเบียนบริษัทในต่างประเทศ
ล่าสุดหนึ่งในสตาร์ทอัพของไทยที่จดทะเบียนบริษัทในไทยอย่าง Finnomena ระดมทุน Series B มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 300 ล้านบาท) จะทำให้บริษัทผ่านความท้าทายในประเทศไทยเพื่อสู้กับเวทีโลกได้อย่างไร
Finnomena ระดมทุน Series B กว่า 300 ล้านบาท ทำอะไรได้บ้าง
เจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟินโนมีนา จำกัด กล่าวว่าจากการเปิดตัว Finnomena ในปี 2559 โดยเป็นแพลตฟอร์มและระบบนิเวศที่จะเชื่อมความรู้และบริการทางการลงทุนให้เข้าถึงคนไทย เช่น ข้อมูลการลงทุน ช่องทางในการขายกองทุนรวม ฯลฯ โดยรายได้หลักมาจากค่าธรรมเนียมการแนะนำกองทุน ปัจจุบันมีฐานผู้ใช้งานกว่า 1.2 แสนราย โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวม 8,300 ล้านบาท
ทั้งนี้การระดมทุน Series B มูลค่าราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 300 ล้านบาท) ต้องนำมาพัฒนาแพลตฟอร์มให้ดีขึ้น เช่น ระบบข้อมูล, Machine Learning ฯลฯ เพื่อเชื่อมข้อมูลการเงินให้ตรงตามความต้องการการลงทุนของลูกค้า รวมถึงการเชื่อมโยงกับพันธมิตรในด้านต่างๆ เพื่อเข้าถึงข้อมูลและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่กว้างขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมเงินระดมทุนทั้งหมดของ Finnomena จะอยู่ที่ 13.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 407.7 ล้านบาท)
ปี 2563 เตรียมเปิดข้อมูลสลากออมสิน ดึงชาวหวย 21 ล้านคนสู่วงการการลงทุน
เจษฎาเล่าว่าการระดมทุนครั้งนี้ทำให้ Finnomena มีพันธมิตรเพิ่มขึ้น โดย Series B มีผู้ลงทุนหลัก 3 เจ้า ได้แก่ Openspace Ventures, Gobi Partners และ Premier Advisory Group ที่เป็นผู้จัดการกองทุน SMEs Private Equity Trust 3 โดยธนาคารออมสิน
ดังนั้นภายในปี 2563 (คาดว่าเป็นช่วงครึ่งปีหลัง) ระยะแรกจะเพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูลสลากออมสินบนแพลตฟอร์ม Finnomena ซึ่งสลากออมสินถือเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนอันดับต้นๆ ที่คนไทยสนใจ
“จากคนไทยที่มีรายได้มีอยู่ 38 ล้านคน แบ่งเป็นกลุ่มคนไทยที่เล่นหวยประมาณ 21 ล้านคน ถ้าเราค่อยๆ ให้ความรู้คนกลุ่มนี้และให้เริ่มต้นลงทุนจากสิ่งที่คุ้นเคยอย่างสลากออมสินก็จะเพิ่มโอกาสให้เขาเรียนรู้เรื่องลงทุนได้มากขึ้น เช่น จากที่ซื้อหวยก็นำมาซื้อสลากออมสิน ต่อไปก็อาจจะเริ่มดูผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ เช่น เงินฝาก กองทุนรวม ฯลฯ”
Finnomena กับเป้าหมายปี 2566 ต้องมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการแสนล้านบาท
เจษฎาเล่าว่าภายในปี 2566 ทางบริษัทตั้งเป้าหมายมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตเท่าตัว จากปัจจุบันอยู่ที่ 8,300 ล้านบาท โดยในปี 2563 ตั้งเป้าหมายเติบโตอย่างน้อย 16,000 ล้านบาท
ทั้งนี้กลยุทธ์หลักจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้มีความหลากหลายและเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ภายในปี 2563 นี้คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์เงินฝาก, ETF และอยู่ระหว่างการทำข้อมูลราคาทองคำ ส่วนในระยะ 1-2 ปีข้างหน้าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น การลงทุนในหุ้น Peer to Peer Lending
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่องจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ Finnomena มีบริการที่เข้าถึงและตอบโจทย์คนไทย รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมสตาร์ทอัพในไทยให้เติบโต
เพิ่มเติม ทาง Finnomena และ Premier Advisory Group ขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลการขายสลากออมสินผ่านช่องทาง Finnomema โดยแจ้งว่าอยู่ระหว่างการเจรจาและยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์