ยิ่งความนิยมของการใช้งาน Mobile Banking และการทำธุรกรรมผ่านระบบดิจิทัลเพิ่มขึ้น ธนาคารหลายแห่งก็เริ่มมองหาวิธีการลดต้นทุนค่าดำเนินการลง โดยเฉพาะการลดจำนวนสาขาให้บริการที่ไม่ทำรายได้ หรืออยู่ในทำเลที่ตั้งใกล้กัน ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการลดต้นทุนที่ธนาคารหลายแห่งทำต่อเนื่องมาสักระยะแล้ว
ล่าสุดธนาคารกสิกรไทย และธนาคารออมสิน ได้จับมือกันนำโมเดล ‘ตู้เอทีเอ็มสีขาว’ หรือ White Label ATM มาใช้ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าที่ถือบัญชีของกสิกรไทย หรือออมสินสามารถทำธุรกรรมผ่านตู้เดียวกันได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม และไม่จำกัดจำนวนครั้ง หวังลดต้นทุนค่าดำเนินการต่างๆ ทั้งการบริหารจัดการตู้เอทีเอ็มและเงินสด
ส่วนการทำธุรกรรมข้ามจังหวัด การถอนเงินสดจะคิดค่าธรรมเนียมลดเหลือ 15 บาทต่อรายการ การโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตร ลูกค้าธนาคารกสิกรไทยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ส่วนลูกค้าธนาคารออมสินคิดค่าธรรมเนียมลดลงเหลือ 15 บาทต่อรายการ
ธนาคารสีขาวของทั้งกสิกรไทย และธนาคารออมสิน จะเริ่มต้นให้บริการช่วงนำร่องเฟสแรกใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย สกลนคร, นครพนม, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส ซึ่งมีเครื่องเอทีเอ็มรวมกันมากกว่า 400 เครื่อง มีช่วงระยะเวลาให้บริการตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 ถึง 30 เมษายน 2563
ถ้านับรวมจำนวนเครื่องเอทีเอ็มทั้งหมดของสองธนาคารในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน จะพบว่ามีจำนวนมากกว่า 17,000 เครื่อง (กสิกรไทย 10,000 เครื่อง และออมสิน 7,000 เครื่อง) ซึ่งจากการเปิดเผยของ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ระบุว่าหากสองธนาคารสามารถให้บริการเครื่องเอทีเอ็มสีขาวได้ครอบคลุมทั้งประเทศในเฟสถัดไป พวกเขาก็จะมีจำนวนจุดให้บริการเอทีเอ็มสูงที่สุดขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งทันที
นับว่าเป็นโมเดลที่น่าสนใจมากๆ สำหรับผู้ให้บริการทางการเงินในปัจจุบัน ซึ่งต้องมาตามดูกันว่า โมเดลตู้เอทีเอ็มสีขาวนี้จะประสบความสำเร็จ และช่วยให้ธนาคารลดต้นทุนค่าดำเนินการได้มากน้อยแค่ไหนในช่วงทดสอบให้บริการ
เพราะไม่แน่ว่าหากการปรับรูปแบบดังกล่าวส่งผลดีกับออมสินและกสิกรไทย ในอนาคตเราอาจจะใช้ได้ตู้เอทีเอ็มของผู้ให้บริการแต่ละธนาคารร่วมกันก็ได้
