ถือเป็นอีกความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองสำหรับ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) ในเครือ สิงห์ เอสเตท ที่เคาราคา IPO ที่ 5.2 บาทต่อหุ้น ก่อนเปิดขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก มูลค่า 7,475 ล้านบาท โดยจัดสรรหุ้นจำนวนไม่เกิน 1,437,456,000 หุ้น หรือไม่เกินร้อยละ 40 ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับ SHR ถือเป็นบริษัทลงทุนและบริหารโรงแรมที่มีอัตราเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมโรงแรม และถือเป็นธุรกิจที่ 3 ของสิงห์ เอสเตท ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังได้นำบริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทแรก ตามด้วยกองทรัสต์ SPRIME เมื่อต้นปี 2562 โดย SHR วางเป้าหมายจะขยายธุรกิจโรงแรมอีกกว่าเท่าตัว จากจำนวนโรงแรมและรีสอร์ตที่มีอยู่ในมือ 39 แห่ง รวมจำนวนห้องพัก 4,647 ห้อง ขยายเป็น 80 แห่ง และตั้งเป้ามีห้องพักมากกว่า 8,000 ห้องภายในปี 2568 คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 15 ต่อปี
นอกจากนี้ SRH ยังได้ลงนามแต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เครดิตสวิส ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย อีก 4 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โดยมีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้น โดย SHR เตรียมพร้อมเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในกลางเดือนพฤศจิกายน 2562
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2559-2561 มีรายได้รวมเติบโตเฉลี่ย 63.1% ต่อปี โดยมีรายได้รวม เท่ากับ 968.0 ล้านบาท 1,074.0 ล้านบาท และ 2,575.7 ล้านบาท ตามลำดับ โดยครึ่งปีแรกของปี 2562 มีรายได้ที่ 1,751.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 715.6 ล้านบาท ของงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นร้อยละ 144.8 ส่วนกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ดอกเบี้ยและภาษี ไม่นับรวมรายการพิเศษ (EBITDA) ของ SHR เติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 58.5% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2559 ปี 2560 และปี 2561 EBITDA ตามงบการเงินรวมของ SHR เท่ากับ 348.9 ล้านบาท 514.3 ล้านบาท และ 877.4 ล้านบาท ตามลำดับ โดยครึ่งปีแรกของปี 2562 มี EBITDA เท่ากับ 461.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 266.0 ล้านบาทของงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือคิดเป็น 73.5% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของรายได้และ EBITDA ของ SHR ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มาจากผลประกอบการที่ดีขึ้นจากการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งรายได้จากการซื้อโรงแรม Outrigger 6 แห่ง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์