เมื่อวานที่ผ่านมา (24 ตุลาคม) ทางการสเปนได้เคลื่อนย้ายศพของ นายพลฟรานซิสโก ฟรังโก ผู้นำเผด็จการเพียงคนเดียวในยุโรปที่ถูกฝังอยู่ในอนุสรณ์สถานแห่งชาติหลังจากเสียชีวิต ราวกับเขาเป็นวีรบุรุษของประเทศ
หลายฝ่ายมองว่าการกระทำดังกล่าวนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของชัยชนะที่เป็นของประชาชน สัญลักษณ์สำคัญของยุคเผด็จการทหารในสเปนได้ถูกจัดระเบียบและคืนความเป็นธรรมแก่บรรดาผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อในช่วงยุคเผด็จการทหารโดยสมบูรณ์แล้ว
ศพของนายพลฟรังโกถูกเคลื่อนย้ายจาก Valley of the Fallen ไปฝังยังสุสาน El Pardo-Mingorrubio Cemetery ทางตอนเหนือของมาดริด เคียงคู่กับศพของ การ์เมน โปโล อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสเปนผู้เป็นภริยา โดยสุสานแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ฝังศพบรรดานักการเมืองคนสำคัญทั้งหลายของสเปน
รัฐบาลสเปนต้องการให้ Valley of the Fallen เป็นสถานที่รำลึกต่อผู้เสียชีวิตจากสงครามและความรุนแรงในช่วงเผด็จการทหาร กลุ่มฝ่ายขวาที่คลั่งไคล้นายพลฟรังโกก็ใช้สถานที่แห่งนี้ในการจัดพิธีรำลึกถึงเขา คำสรรเสริญต่างๆ เหล่านั้นซ้อนทับอยู่กับประวัติศาสตร์บาดแผลของลูกหลานบรรดาผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมากที่ถูกฝังไว้ที่นี่เช่นกัน จนนำไปสู่การผลักดันให้เคลื่อนย้ายศพในท้ายที่สุด
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายแผ่นแกรนิตหนัก 1.5 ตัน อยู่ที่ราคา 3,090 ยูโร (ราว 104,000 บาท)
โดยรัฐบาลสเปนต้องการให้การขุดย้ายศพของเขาให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้งทั่วไปจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งอาจมีส่วนทำให้รัฐบาลได้รับคะแนนเสียงจากการขุดย้ายศพครั้งนี้ไม่น้อย แม้จะถูกอีกฝ่ายโจมตีว่าอาจปลุกกระแสความบอบช้ำในอดีตและก่อให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังคมสเปนอีกครั้งก็ตาม
ภาพ: J.J. Guillén – Pool / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: