ธนาคารกรุงศรีอยุธยา รายงานผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 26,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.7% จากช่วงเดียวกันของปี 2561 เพิ่มขึ้นจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย มาจากการบันทึกกำไรจากขายหุ้น บริษัท เงินติดล้อ จำกัด 50% ให้แก่กลุ่มกองทุน CVC Capital Partners Asia Fund IV (CVC) และบริษัท Equity Partners Limited (EPL) และเพิ่มขึ้นจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิตามการขยายตัวของสินเชื่อ
รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 57,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อเติบโตอย่างต่อเนื่องในหลายสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อ SMEs เติบโตต่อเนื่อง
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย อยู่ที่ 10.205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.0% อย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ อยู่ที่ 42.6% ปรับตัวดีขึ้นจาก 46.7% ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2561
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.68% เพิ่มขึ้นจากงวด 9 เดือนแรกของปี 2561 ที่อยู่ระดับ 3.81%
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ปัจจุบันอยู่ที่ 2.01% ปรับตัวดีขึ้นจาก 2.08% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561
เซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่าจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่ออุปสงค์ภายในประเทศและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ กรุงศรีฯ คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากที่ประเมินไว้ก่อนหน้า โดยปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยลงมาอยู่ที่ 2.9% จาก 3.2%
อย่างไรก็ตาม จากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะยังคงเกื้อหนุนต่อการเติบโตของเศรษฐกิจต่อเนื่องในไตรมาส 4 กรุงศรีฯ คาดว่าการขยายตัวของสินเชื่อสำหรับปี 2562 จะอยู่ในกรอบบนของเป้าหมายที่ 6-8%
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
