- S&P สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจฮ่องกงสู่ระดับ 0.2% ในปีนี้ และ 1.6% ในปีหน้า จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนกรกฎาคมที่ระดับ 2.2% และ 2.4% ตามลำดับ สืบเนื่องจากการทรุดตัวของยอดค้าปลีกและการท่องเที่ยวของฮ่องกงจากผลกระทบของเหตุการณ์รุนแรงระหว่างกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยและตำรวจฮ่องกงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สำนักงานการท่องเที่ยวฮ่องกงเปิดเผยว่าจำนวนผู้เดินทางเข้าฮ่องกงลดลง 39.1% สู่ระดับ 3.59 ล้านคนในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขผู้เดินทางจากจีนลดลง 42.3% สู่ระดับ 2.78 ล้านคน ส่วนจำนวนผู้เดินทางที่มาจากไทย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ลดลงมากกว่า 30% ขณะที่สหรัฐฯ ลดลง 25.5% ส่วนผู้เดินทางจากอินเดีย เวียดนาม และรัสเซียก็ลดลงเช่นกัน
- วานนี้คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบกลาง 116 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในโครงการ ‘ถึงเวลาทัวร์ให้ทั่วไทย’ ในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2562 โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อกระตุ้นการเดินทางรวมถึงใช้จ่ายให้กระจายอย่างถ้วนทั่วทุกพื้นที่และทุกภาคส่วนธุรกิจให้มากที่สุด และร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวเพื่อให้สามารถซื้อแพ็กเกจในราคาพิเศษ 100 บาท จำนวน 10,000 รายการต่อรอบการจัดกิจกรรม รวมทั้งหมด 40,000 รายการ โดยการลงทะเบียนเพื่อร่วมซื้อแพ็กเกจทาง LINE Official ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รับสิทธิ์ลิงก์สู่หน้าการซื้อแพ็กเกจคนละ 1 รายการ โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเจนเอ็กซ์ เจนวาย รวมทั้งกลุ่มผู้มีกำลังการใช้จ่ายในระดับปานกลาง
- PMI สหรัฐฯ ร่วง ทรัมป์ตำหนิ Fed คือต้นตอ วานนี้สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนกันยายนออกมาที่ 47.8 จุด ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.1 จุด ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 50.4 จุด และอยู่ในแดนหดตัวเป็นเดือนที่ 2 โดยเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี สะท้อนภาคการผลิตที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากความไม่แน่นอนกรณีสงครามการค้า ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาทวีตตำหนิ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ว่าเป็นเพราะ Fed ไม่ยอมปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าและทำให้ผู้ผลิตได้รับผลกระทบอย่างมาก นอกจากนี้ยังส่งผลให้แนวโน้มการผลิตชะลอตัวลง โดยที่อัตราดอกเบี้ยของ Fed อยู่สูงเกินไป
- Visa และ Mastercard สองยักษ์ใหญ่ด้านการให้บริการชำระค่าสินค้าระบุ อาจทบทวนเกี่ยวกับการสนับสนุนสกุลเงิน Libra ของ Facebook ใหม่อีกครั้ง ส่งผลให้ Libra อาจต้องพึ่งผู้ให้บริการด้านการชำระเงินรายอื่นที่ยังสงวนท่าทีอย่าง Paypal และ Stripe เพื่อเป็นตัวกลางในการชำระเงินต่อไป
- สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือเดินหน้าเจรจาอีกครั้ง หลังจากการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ไม่ประสบผลสำเร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุดวานนี้ โชซอนฮุย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ เผยว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยหวังว่าการเจรจาครั้งใหม่จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ดีขึ้นและบรรลุข้อตกลงในที่สุด
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ปรับตัวในแดนลบ Underperform กว่ากลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากการกระตุ้นทางนโยบาย โดยออสเตรเลีย ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดเพิ่มขึ้น +0.81% ด้วยปัจจัยหนุนจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% สู่ระดับ 0.75% และตัวเลข PMI ภาคอุตสาหกรรมที่กลับมายืนเหนือแดนขยายตัวได้ที่ระดับ 50.3 จุด ขณะที่กลุ่ม Semiconductor ยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ให้ปรับตัวขึ้น โดยดัชนี KOSPI ปิดขยับขึ้น +0.45% เช่นเดียวกับดัชนี Taiwan Weighted ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดเพิ่มขึ้น +1.27%
.
- แต่ค่ำวานนี้ตลาดยุโรปและสหรัฐฯ กลับได้รับปัจจัยลบจากตัวเลข PMI ภาคอุตสาหกรรมเดือนกันยายนของสถาบัน ISM ที่ออกมา 47.8 ต่ำกว่าคาดที่ 50.4 และต่ำกว่าครั้งก่อนที่ 49.1 นับว่าเป็นสัญญาณหดตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่โผล่ออกมาให้เห็นอย่างมีนัยสำคัญ หากย้อนดูสถิติเมื่อตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่า 45 มักตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ทุกครั้ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั้งสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวลงมากกว่า -1.00% ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้น 14.6 ดอลลาร์ต่อออนซ์สู่ระดับ 1,487.5, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลงจาก 1.751% สู่ระดับ 1.647% ขณะที่ Dollar Index อ่อนค่าจาก 99.3 สู่ระดับ 98.78 จากการแข็งค่าของสกุลยูโรและสกุลเงินเยน
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 26601.75 ลดลง 315.08 (-1.17%)
- S&P 500 ปิดที่ 2942.89 ลดลง 33.84 (-1.14%)
- Nasdaq ปิดที่ 7915.53 ลดลง 83.81 (-1.05%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 12263.83 ลดลง 164.25 (-1.32%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7360.32 ลดลง 47.89 (-0.65%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3518.25 ลดลง 51.2 (-1.43%)
- FTSE MIB ปิดที่ 21927.57 ลดลง 180.13 (-0.81%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 21885.24 เพิ่มขึ้น 129.4 (+0.59%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6742.8 เพิ่มขึ้น 54.5 (+0.81%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 10967.65 เพิ่มขึ้น 137.97 (+1.27%)
- SET ปิดที่ 1624.09 ลดลง 13.13 (-0.8%)
- KOSPI ปิดที่ 2072.42 เพิ่มขึ้น 9.37 (+0.45%)
- IDX Composite ปิดที่ 6138.25 ลดลง 30.85 (-0.5%)
- BSE Sensex ปิดที่ 38305.41 ลดลง 361.92 (-0.94%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7739.86 ลดลง 39.21 (-0.5%)
- ***ตลาดหุ้นจีน Shanghai, SZSE Component และ China A50 หยุดทำการเนื่องในวันชาติจีน
- *Hang Seng หยุดทำการ เนื่องในวันชาติจีน
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 53.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.45 (-0.83%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 58.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.27 (-0.46%)
- ราคาทองคำปิดที่ 1487.5 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.6 (+0.99%)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing