วันนี้ (18 ก.ย.) ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย สุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และ ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรเปิดอภิปรายไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า
วันนี้ฝ่ายค้านเตรียมปรับเวลาการอภิปรายใหม่ เนื่องจากรัฐบาลได้แจ้งว่าจะมีการสวดมนต์ในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ พระลานพระราชวังดุสิต เวลา 18.00 น. ซึ่งคณะรัฐมนตรีจะต้องไปเข้าร่วมพิธี และฝ่ายค้านเห็นว่าเป็นพิธีสำคัญที่จะได้รวมใจประชาชนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
“จากเดิมที่คิดว่าจะจบในเวลาเที่ยงคืนกลายเป็นมาจบที่เวลา 6 โมงเย็น เราเองก็ต้องปรับเวลาและจำนวนคนลง โดยจำนวนยังเป็นที่ 15 คน แต่จะมีการบวกลบตามสถานการณ์ เวลาของแต่ละคนอาจมีการปรับลง รวมถึงเนื้อหาต้องกระชับมากขึ้น ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากรัฐบาล เนื่องจากเราได้เวลาน้อยอยู่แล้ว อยากให้เริ่มให้ตรงเวลา ไม่มีการตีรวน ประชาชนจะได้ไม่ผิดหวัง” สุทินกล่าว
สุทินกล่าวอีกว่าหากรัฐบาลยังมาทำลายจังหวะและตีรวนเราก็จะกลายเป็นเรื่องที่มีปัญหา ซึ่งเราคิดว่าจะมีการตีรวนและเกิดอุปสรรคตามลำดับ ตั้งแต่การมาลงชื่อเข้าประชุมของ ส.ส. ฝั่งรัฐบาลที่จะลงชื่อช้า ทำให้เปิดประชุมช้า อีกประเด็นคือการหยิบยกคำสั่งศาลขึ้นมาหารือ และต่อมาอาจจะมีการหยิบยกประเด็นอื่นขึ้นมาตีรวน รวมถึงการขอประชุมลับ กระทั่งการขอออกไปก่อนเพื่อเดินทางไปร่วมพิธี จึงอยากขอทางรัฐบาลให้ความร่วมมือ จนบัดนี้ยังไม่ทราบว่านายกฯ จะมาสภาเวลาใด และอยู่ช่วงเวลาใดบ้าง “วันนี้จะมาหรือไม่มายังไม่รู้ เราต้องปรับแผนตามหน้างาน”
สุทินตั้งคำถามว่าทำไมงานนายกฯ ถึงมาแน่นเอาวันนี้ ก็แล้วแต่จะคิด เราก็ทำได้เท่าที่มีข้อจำกัด
“หากมีการประชุมลับ เราลับไม่ได้ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องให้ประชุมลับ แม้แต่การประชุมลับบางช่วงบางตอนก็ไม่มีเหตุผล ให้คำนึงถึงชาวบ้านด้วย ขอร้องให้มีเหตุผล เราก็ยอมรับไม่ได้ การวอล์กเอาต์เป็นวิธีสุดท้ายที่จำเป็นเท่านั้นที่เราจะทำ แต่ถ้ามันจำเป็นก็ต้องทำ”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์