เมื่อวานที่ผ่านมา (9 ก.ย.) องค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO) หนึ่งในหน่วยงานภายใต้องค์การสหประชาชาติเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 เพิ่มขึ้น 4% แม้จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีน รวมถึงกรณี Brexit ของสหราชอาณาจักร
UNWTO ระบุว่า ช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวราว 671 ล้านคนเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 30 ล้านคน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาตั๋วเครื่องบินที่ไม่สูงจนเกินไป ประกอบกับมีการเปิดเส้นทางใหม่ๆ รวมถึงข้อยกเว้นด้านวีซ่าที่เอื้อให้เกิดการเดินทางไปยังต่างประเทศได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ตะวันออกกลางและเอเชียถือเป็นภูมิภาคที่ภาคการท่องเที่ยวเติบโตมากที่สุดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยการท่องเที่ยวในตะวันออกกลางเติบโตขึ้น 8% โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน ขณะที่การท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกเติบโตขึ้น 6% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ส่วนยุโรป ทวีปในฝันของนักท่องเที่ยวจำนวนมากเติบโตราว 4%
คาดการณ์ว่าภาพรวมการท่องเที่ยวโลกตลอดปี 2019 จะเติบโตขึ้น 3-4% โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ หลังจากที่เติบโตขึ้น 6% ในปี 2018 และ 7% ในปี 2017
เมื่อไม่นานที่ผ่านมา Mastercard เผยอันดับเมืองจุดหมายปลายทางยอดนิยมของปีที่ผ่านมา โดยมีเมืองในตะวันออกกลางและเอเชียแปซิฟิกติด 7 ใน 10 อันดับแรกจากหัวตาราง โดยยกให้กรุงเทพฯ เป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางยอดนิยมประจำปี 2018 ตามมาด้วยปารีสและลอนดอน
ภาพ: Twinsterphoto / Shutterstock
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: