ขณะที่โลกของการลงทุนและการออมกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ ทยอยเปิดตัวออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เทรนด์การลงทุนที่น่าจับตามองอย่างมากในตอนนี้คือ Unit Linked ประกันชีวิตควบการลงทุนที่ให้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและให้ผลตอบแทนงอกเงยจากการลงทุนไปในตัว
จากผลตอบรับของผู้บริโภคที่ทำให้ตลาด Unit Linked เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้สถาบันการเงินและบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่หันมารุกตลาดนี้อย่างจริงจัง หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของตลาดคือการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่าง บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านธุรกิจประกันชีวิตระดับโลก กับ ธนาคารเกียรตินาคิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับลูกค้าด้วยการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ Unit Linked ที่ออกแบบโดยใช้ความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ภายใต้ผลิตภัณฑ์เคเคเจน เวลท์ อินเวสท์ ลิงค์ และเคเคเจน เวลท์ โพรเทค ลิงค์
Unit Linked จาก KKGEN อิสระของการลงทุนที่หลากหลาย
จากการซื้อประกันชีวิตที่เหมือนเอาเงินก้อนไปฝากไว้กับบริษัทประกัน โดยได้รับผลตอบแทนคงที่ที่ไม่สูงนักตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ Unit Linked โดยเจนเนอราลี่และธนาคารเกียรตินาคินคือวิวัฒนาการอีกขั้นของประกันชีวิตที่ไม่ได้ปล่อยให้บริษัทประกันนำเงินของเราไปลงทุนได้ตามใจ แต่กลายเป็นเราที่สามารถเลือกสรรการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองภายใต้กองทุนรวมที่มีให้เลือกตามความเสี่ยงที่หลากหลาย ถือเป็นการผสมผสานระหว่างประกันชีวิตที่การันตีความมั่นคงกับการลงทุนในกองทุนรวมที่คาดหวังได้ในเรื่องผลตอบแทนที่คุ้มค่า
พูดอีกอย่างว่า เคเคเจน โพรเทค ลิงค์ และเคเค เวลท์ อินเวสท์ ลิงค์ คือการให้อิสรภาพกับลูกค้าในการวางแผนการลงทุนและรับผลตอบแทนในระยะยาว ลูกค้าสามารถจัดพอร์ตการลงทุนได้อย่างอิสระตามความเคลื่อนไหวของตลาดกองทุน อีกทั้งยังสามารถสับเปลี่ยนกองทุนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากธนาคารเกียรตินาคินมีจุดแข็งจากการเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ซึ่งมีประสบการณ์ในตลาดการลงทุนมากกว่า 20 ปี และทำหน้าที่ดูแลทรัพย์สินของนักลงทุนจำนวนมากที่มีเงินลงทุนตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไปในลักษณะของ Private Bank จนมียอดสินทรัพย์ภายใต้การให้คำแนะนำ (Asset under Advice: AUA) สูงถึงกว่า 6.5 แสนล้านบาท ในขณะที่เจนเนอราลี่ คือบริษัทประกันชีวิตที่มีสาขากว่า 60 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมั่นคงด้วยสินทรัพย์ และทรัพยากรบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน เมื่อทั้งสองบริษัทตกลงพัฒนาผลิตภัณฑ์ Unit Linked ร่วมกัน สิ่งที่ลูกค้าจะคาดหวังได้จึงเป็นความไว้วางใจในการเลือกสรรกองทุนที่มีศักยภาพ การบริการที่ดีเยี่ยม และความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
Unit Linked โดยเจนเนอราลี่และธนาคารเกียรตินาคินมีให้เลือก 2 รูปแบบ คือ
เคเคเจน เวลท์ อินเวสท์ ลิงค์ แบบชำระเบี้ยประกันครั้งเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นผลตอบแทนสูง โดยมีความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 150% ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระครั้งเดียว (ขึ้นอยู่กับอายุของผู้เอาประกันภัย ณ ปีกรมธรรม์ที่เสียชีวิต)
ส่วน เคเคเจน เวลท์ โพรเทค ลิงค์ แบบชำระเบี้ยประกันภัย 3 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นความคุ้มครองควบคู่การลงทุน และต้องการแบ่งชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายงวด มีความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 5 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลักรายปี (ขึ้นอยู่กับอายุของผู้เอาประกันภัย ณ ปีกรมธรรม์ที่เสียชีวิต)
กว่าจะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจนสามารถก้าวขึ้นเป็นเจ้าตลาดอันดับที่ 2 ของเซกเมนต์* ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี โดยมีส่วนแบ่งการตลาดของเบี้ยรับรวม (GWP) อยู่ที่ 21% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 เจนเนอราลี่และธนาคารเกียรตินาคินได้ร่วมกันทำงานหนักเพื่อดึงอินไซต์ความต้องการของลูกค้าในมุมที่ต่างฝ่ายต่างเชี่ยวชาญ ก่อนจะออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจของลูกค้ามากที่สุด (*อ้างอิง: ข้อมูลสถิติประกันชีวิต, ธันวาคม 2560 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.))
“เรามองว่าผลิตภัณฑ์ Unit Linked ที่เราออกแบบร่วมกันเป็นสิ่งที่ลูกค้ารอคอยมานาน โดยเฉพาะฐานลูกค้าเดิมของเกียรตินาคินที่เน้นผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นหลัก มักจะขยายขอบเขตการลงทุนมาสู่ Unit Linked โดยมองว่านอกเหนือจากผลตอบแทนจากการลงทุนแล้วเขายังจะได้ความคุ้มครองด้วย นอกจากนี้เรายังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เลือกความเสี่ยงตามกองทุนที่หลากหลายจาก บลจ. ชั้นนำ ซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่าในระยะยาว จึงทำให้ผลตอบรับในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเกินความคาดหมาย” ฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงปัจจัยความสำเร็จของ Unit Linked จากเคเคเจน
โปร่งใส ตรวจสอบได้ ความไว้ใจของลูกค้าคือเป้าหมายอันดับ 1
นอกเหนือจากความหลากหลายของกองทุนที่ให้ลูกค้าได้เลือกสรรและการมองเห็นความต้องการที่ชัดเจนของลูกค้าแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Unit Linked จากเคเคเจนมีความแตกต่างอย่างชัดเจนคือเรื่องความโปร่งใส
บัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ระบุถึงความสำคัญในเรื่องนี้ว่า
“สำหรับเจนเนอราลี่ ความโปร่งใสถือเป็นนโยบายหลักของเราเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เพราะเราต้องคุ้มครองความเสี่ยงให้กับลูกค้าอย่างดีที่สุด ซึ่งในแต่ละไตรมาสเราจะมาประเมินเพอร์ฟอร์แมนซ์ของแต่ละกองทุน ก่อนจะแนะนำกับลูกค้าอย่างตรงไปตรงมาว่ากองทุนนี้ในระยะยาวอาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีนัก ดังนั้นเราแนะนำว่าไม่ให้ลงทุนเพิ่ม ขณะเดียวกันเราก็พยายามให้ความรู้กับลูกค้า โดยเฉพาะในขั้นตอนการขาย โดยจุดเริ่มต้นต้องชัดเจนว่าลูกค้าเข้าใจตั้งแต่ต้นหรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือประกันชีวิต เพื่อให้เกิดความโปร่งใสกับลูกค้ามากที่สุด แล้วพันธมิตรของเราคือธนาคารเกียรตินาคิน ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ขายก็มีชื่อเสียงอยู่แล้วในเรื่องการปฏิบัติตามมาตรฐานของการกำกับดูแล จึงมั่นใจได้ว่าผู้บริโภคจะได้รับความคุ้มครอง” บัณฑิตเล่าถึงการทำงานอย่างใกล้ชิดในฐานะพาร์ตเนอร์กับลูกค้า ก่อนจะเสริมว่า
“บอกตามตรงว่าเราสูญเสียลูกค้าไปเยอะมากระหว่างกระบวนการขายที่เกิดขึ้น เพราะเรากำหนดขั้นตอนที่รัดกุมมากกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ปลายทางที่เรามองเสมอคือความสบายใจของลูกค้า โดยเฉพาะการทำให้เขารู้ว่าเขาตัดสินใจบนพื้นฐานของอะไร เขาเข้าใจหรือไม่ว่าเขากำลังซื้อประกันชีวิตควบคู่การลงทุน ไม่ได้ซื้อกองทุนรวมแล้วมีประกันแถม ซึ่งผมคิดว่าลูกค้าควรมีสิทธิ์จะเข้าถึงข้อมูลให้มากที่สุดก่อนจะตัดสินใจเลือกในสิ่งที่เขาคิดว่าเหมาะสมกับตัวเขาที่สุด แล้วในระยะยาวผมคิดว่าการทำอะไรให้โปร่งใสมันดีเสมอ”
เช่นเดียวกับฟิลิปที่มองว่าการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าคือกลยุทธ์สำคัญสำหรับธนาคารเกียรตินาคินเช่นกัน ดังนั้นการพยายามขายเพื่อให้ลูกค้าจ่ายเบี้ยเพียงครั้งเดียวไม่ใช่วิถีทางของทั้งสองบริษัทแน่นอน
นอกจากนี้ทั้งสองบริษัทยังจะร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนของลูกค้าสามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว ผ่านแอปพลิเคชันที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ เพื่อสร้างความโปร่งใสและความสบายใจให้กับลูกค้ามากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย
Unit Linked โดยเคเคเจน อนาคตของการลงทุนที่ตอบทุกความต้องการ
หน้าที่ของประกันชีวิตคือการให้ความคุ้มครองและเป็นหลักทรัพย์ที่มั่นคงในวันที่อนาคตข้างหน้ายังมาไม่ถึง และไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต ขณะที่กองทุนรวมคือการใช้เงินทำงานเพื่อสร้างผลกำไรตามกลไกตลาดที่มีความผันผวน เมื่อรวมข้อดีของรูปแบบการลงทุนทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน Unit Linked โดยเจนเนอราลี่และธนาคารเกียรตินาคิน กำลังเข้ามาตอบโจทย์นักลงทุนที่กำลังมองหาความมั่นคงในระยะยาวด้วยทางเลือกที่หลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันก็ลดความยุ่งยากในการบริหารจัดการทั้งสองฝั่งการลงทุน เรียกง่ายๆ ว่าครบจบในที่เดียว
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเรื่องควรรู้ที่นักลงทุนมือใหม่ยังต้องทำความเข้าใจ โดยบัณฑิตให้คำแนะนำเกี่ยวกับ Unit Linked สำหรับผู้ที่สนใจว่า
“อย่างแรกต้องเข้าใจก่อนว่า Unit Linked คือประกัน ไม่ใช่การลงทุนล้วนๆ เพราะฉะนั้นถ้าคุณคิดว่ากำลังต้องการประกันชีวิตเพิ่มสักเล่ม Unit Linked เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจแน่นอน เพียงแต่คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าคุณสามารถรับความเสี่ยงแค่ไหน เช่น ถ้าคุณรับความเสี่ยงได้น้อย ใน 12 กองทุนที่เรามีให้เลือกก็จะมีกองทุนที่เป็น Fixed Income ที่มีนโยบายลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ แต่ผลตอบแทนจากกองทุนก็จะน้อยหน่อย เพราะฉะนั้นถึงแม้คุณจะเป็นมือใหม่ก็สามารถเลือกทางนี้ได้
“แต่ถ้าอยากได้ทั้งประกันชีวิตและโอกาสที่จะทำกำไรจากกองทุน เราแนะนำว่าให้ถือเอาไว้ในระยะยาว เช่นเดียวกับประกันชีวิตทั่วๆ ไปที่จะต้องมีวินัยในการสะสมเงินออม ดังนั้นจึงไม่แนะนำสำหรับนักลงทุนที่มองการลงทุนในระยะสั้น อีกอย่างคือยิ่งทำตอนอายุน้อยๆ เบี้ยประกันชีวิตก็จะต่ำกว่า พอเงินที่ลงทุนไปถูกสะสมไว้เรื่อยๆ เบี้ยประกันก็จะค่อยๆ สูงขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ดังนั้นยิ่งทำเร็วยิ่งดี ที่สำคัญคือไม่มีค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงกองทุน ดังนั้นคุณสามารถจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนได้เรื่อยๆ ตามความต้องการที่เปลี่ยนไป”
แน่นอนว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แต่การบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นเรื่องที่เรารับมือได้ โดยเลือกลงทุนกับบริษัทที่เราไว้วางใจ ซึ่งเจนเนอราลี่และธนาคารเกียรตินาคินก็ถือเป็นหนึ่งในบริษัทเหล่านั้น พิสูจน์ได้จากความพยายามจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด ส่วนที่เหลือย่อมมีเพียงการตัดสินใจของคุณเองเท่านั้น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์