×

ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เฮอริเคนดอเรียนเตรียมเคลื่อนสู่ฝั่งฟลอริดา คาดรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี

30.08.2019
  • LOADING...

ทางการฟลอริดาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ทุกเทศมณฑล ขณะที่เฮอริเคนดอเรียนกำลังเคลื่อนตัวสู่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ โดยสำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ พยากรณ์ว่าหากเฮอริเคนดอเรียนยกระดับเป็นพายุระดับ 4 และพัดขึ้นบกในวันจันทร์ (2 ก.ย.) ด้วยความเร็วลม 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทำให้มันเป็นเฮอริเคนที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ นับจากเฮอริเคนแอนดรูว์เมื่อปี 1992  

 

ด้วยความเร็วลม 169 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขณะนี้ ทำให้ดอเรียนเป็นพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีกำลังแรงที่สุดของฤดูเฮอริเคนปีนี้ โดยเมื่อวานนี้ดอเรียนถูกจัดเป็นพายุระดับ 2 ซึ่งหากเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งฟลอริดาตามคำพยากรณ์ จะถือเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันที่ฟลอริดาเผชิญกับพายุเฮอริเคน โดยเมื่อปีที่แล้วเฮอริเคนไมเคิลได้พัดถล่มและสร้างความเสียหายให้กับชาวฟลอริดาอย่างหนัก

 

ด้าน รอน เดอซานติส ผู้ว่าการมลรัฐฟลอริดา ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 67 เขตเทศมณฑล พร้อมกับจัดเตรียมน้ำสะอาด 819,000 แกลลอน และอาหารจำนวน 1.8 ล้านชุด ไว้สำหรับแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยแล้ว รวมทั้งระดมกำลังเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 2,500 คนไว้คอยให้ความช่วยเหลือ

 

นอกจากนี้ทางการยังแนะนำให้ประชาชนสำรองอาหารและยาไว้สำหรับบริโภค 7 วัน ซึ่งทำให้ชาวฟลอริดาแห่กักตุนสินค้าอุปโภคและบริโภคจนเกลี้ยงชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง

 

ส่วนกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้สั่งการให้เคลื่อนย้ายเครื่องบินทหารจากสถานีการบินนาวีแจ็กสันวิลล์ รวมถึงเรือรบในฐานทัพเรือเมย์พอร์ต ไปยังฐานทัพเรือทางตะวันออกเฉียงใต้เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางพายุ

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์อวกาศเคนเนดีขององค์การนาซากำลังเตรียมมาตรการป้องกันไม่ให้ฮาร์ดแวร์โครงการท่องอวกาศ Artemis ได้รับความเสียหายจากพายุ โดยมีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ เช่น ฐานปล่อยจรวดเคลื่อนที่ เข้าไปเก็บในที่กำบัง

 

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเซ็นทรัลฟลอริดาและโรงเรียนในเทศมณฑลมาร์ตินได้ประกาศงดการเรียนการสอนจนถึงวันอังคารหน้าเป็นอย่างน้อย โดยเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยระบุว่านักศึกษาที่พักอยู่ในมหาวิทยาลัยและไม่สามารถออกนอกเมืองได้จะถูกเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising