- ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ 1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ (CB Consumer Confidence) ประจำเดือนสิงหาคม ประกาศออกมาที่ 135.1 จุด ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ 135.8 จุด แต่ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 129.5 จุด สะท้อนภาคการบริโภคสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง แม้มีกรณีสงครามการค้าเข้ามากระทบอย่างต่อเนื่อง 2. GDP เยอรมนีขยายตัว 0.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และหดตัว 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากการหดตัวของภาคการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและยานยนต์ อันเนื่องมาจากความต้องการสินค้ากลุ่มดังกล่าวในจีนที่ชะลอตัวลง 3. ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมไทยประจำเดือนกรกฎาคมหดตัว 3.23% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 3.05% แต่ฟื้นตัวขึ้นจากครั้งก่อนหน้าที่หดตัว 5.54%
- จีนเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง หลังจากสงครามการค้ายืดเยื้อมาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี ซึ่งกดดันการลงทุนและการบริโภคของจีนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวานนี้คณะรัฐมนตรีจีนออกแถลงการณ์ว่ารัฐบาลท้องถิ่นควรผ่อนคลายกฎเกณฑ์การซื้อรถยนต์ พร้อมทั้งสนับสนุนให้ปรับปรุงศูนย์การค้าที่มีปัญหา สนามกีฬา และโรงงานเก่าให้เป็นศูนย์การค้าที่มีคุณภาพ และพร้อมผลักดันให้ศูนย์การค้าและร้านอาหารเปิดบริการนานขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากการบริโภคและการซื้อรถยนต์ หลังยอดขายหดตัว 13 เดือนต่อเนื่อง
- คลังเดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกรกระตุ้นเศรษฐกิจ วานนี้คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยเบิกจ่ายงบประมาณจำนวน 15,800 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมใน 74 จังหวัดทั่วประเทศ โดยในส่วนของรายละเอียดจะขึ้นอยู่กับจังหวัดที่ทำโครงการและเสนอแผนงานเพื่อให้กระทรวงมหาดไทยกลั่นกรองเพื่ออนุมัติต่อไป พร้อมกันนั้นยังมีมติอนุมัติมาตรการประกันรายได้ชาวนาด้วยวงเงิน 21,495 ล้านบาท โดยวงเงินดังกล่าวจะครอบคลุมผู้ลงทะเบียนกว่า 892,176 ครัวเรือน และเป็นการประกันราคาสูงสุดที่ 15,000 บาทต่อตัน สูงสุดไม่เกิน 16 ตันต่อครัวเรือน โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในกลุ่มเกษตรกรได้บางส่วน แต่ยังคงคาดหวังมาตรการระยะกลางถึงยาวต่อไป
- จีนยืนยันไม่ได้ติดต่อสหรัฐฯ ขอเจรจา หลังจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาสงครามการค้ากลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้งจากการตอบโต้กันระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายลง หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าทางการจีนติดต่อมาทางโทรศัพท์เพื่อขอกลับเข้าสู่การเจรจาอีกครั้ง แต่กระน้ันวานนี้ เกิ่งส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่าไม่ทราบข่าวเรื่องการโทรศัพท์ดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับที่ หูสีจิน บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ Global Times ของจีนทวีตข้อความยืนยันว่าคณะเจรจาการค้าจากทั้งสองฝ่ายไม่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์แต่อย่างใด
- อดีตกรรมการ Fed ชี้ ควรดำเนินนโยบายการเงินโดยพิจารณาการเมืองควบคู่ด้วย วิลเลียม ดัดลีย์ อดีตกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขานิวยอร์ก ให้ความเห็นต่อการทำงานของ Fed ว่าควรที่จะดำเนินนโยบายการเงินโดยพิจารณาผลกระทบจากการเมืองระหว่างประเทศด้วย เนื่องจากการตัดสินใจแบบเดิมโดยมิได้คำนึงถึงประเด็นการเมืองอาจสนับสนุนให้ โดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มท่าทีแข็งกร้าวต่อการต่อรองดังกล่าว อีกทั้งยังควรที่จะคำนึงถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 ด้วย ท่าทีดังกล่าวสวนทางกับโฆษกประจำธนาคารกลางที่ปฏิเสธแนวความคิดดังกล่าว พร้อมทั้งระบุว่าแนวทางของ Fed คือการสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดการเงิน
ภาวะตลาดวานนี้
- เกิดภาวะ Inverted Yield Curve อีกครั้งพร้อมกับการพุ่งขึ้นของราคาทองคำ ขณะที่ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ 1.474% และ 2 ปี อยู่ที่ 1.514% ซึ่งราคาทองคำปรับตัวขึ้นถึง 18 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับ 1,551 อีกครั้ง หลังจากโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่าไม่ได้โทรไปคุยกับสหรัฐฯ เพื่อเจรจาทางการค้า ตามที่สหรัฐฯ กล่าวอ้าง
ยุโรป
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3370.47 เพิ่มขึ้น 21.63 (+0.65%)
- DAX ปิดที่ 11730.02 เพิ่มขึ้น 71.98 (+0.62%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7089.58 ลดลง 5.4 (-0.08%)
- FTSE MIB ปิดที่ 20991.3 เพิ่มขึ้น 314.47 (+1.52%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 20456.08 เพิ่มขึ้น 195.04 (+0.96%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6471.2 เพิ่มขึ้น 31.1 (+0.48%)
- Shanghai ปิดที่ 2902.19 เพิ่มขึ้น 38.63 (+1.35%)
- Hang Seng ปิดที่ 25664.07 ลดลง 16.26 (-0.06%)
- SET ปิดที่ 1615.47 ลดลง 7.26 (-0.45%)
- KOSPI ปิดที่ 1924.6 เพิ่มขึ้น 8.29 (+0.43%)
- BSE Sensex ปิดที่ 37641.27 เพิ่มขึ้น 147.15 (+0.39%)
อเมริกา
- Dow 30 ปิดที่ 25777.9 ลดลง 120.93 (-0.47%)
- S&P 500 ปิดที่ 2869.16 ลดลง 9.22 (-0.32%)
- Nasdaq ปิดที่ 7826.95 ลดลง 26.79 (-0.34%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 54.93 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.29 (+2.4%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 59.51 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.81 (+1.4%)
- ราคาทองคำ ปิดที่ 1551.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 18.153 (+2.9%)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Prachachart