หลังจากก่อนหน้านี้มีการรายงานว่า กลุ่มบริษัท Huawei บริษัทโทรศัพท์มือถือและเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน ได้เข้าหารือกับหน่วยงานของไทย พร้อมทดสอบเทคโนโลยี 5G ในช่วงที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เผยถึงความคืบหน้ากรณียักษ์ใหญ่โทรคมนาคมจีน Huawei เตรียมเข้าลงทุนโครงข่ายโทรคมนาคม 5G ในประเทศไทย ว่า สำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ ได้เน้นย้ำให้ทาง BOI ให้ความสำคัญกับการลงทุนที่เกี่ยวกับในด้านการศึกษาเป็นลำดับแรกๆ หากมีนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนและช่วยสนับสนุนให้เกิดการศึกษาพัฒนาบุคลากร BOI จะต้องให้ความสำคัญเต็มที่ เพราะเวลานี้บุคลากรของไทยมีจำนวนไม่เพียงพอที่จะรองรับกับความต้องการในอนาคตได้
โดยล่าสุดตัวแทนจาก Huawei ได้เข้าพบและแสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วมการลงทุนในเครือข่ายโทรคมนาคม 5G ซึ่งถือเป็นรายแรกๆ โดยขอให้ไทยเร่งปรับปรุงพัฒนาเพื่อรองรับกับระบบ 5G ซึ่งก็จะต้องเร่งพัฒนาให้ได้ภายในปี 2563 ที่จะถึงนี้ถ้าทำได้ เนื่องจากเทคโนโลยี 5G มีความสำคัญต่อการลงทุนและการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ และเศรษฐกิจไทย
“ระบบนิเวศสำหรับ 5G เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะในขณะที่ 4G เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต แต่ 5G เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอุตสาหกรรมและการทำธุรกิจ จึงไม่ควรล่าช้า อย่างไรก็ตาม ลำพังแค่ 5G ไม่มีประโยชน์ แต่ต้องพิจาณาว่าโครงสร้างพื้นฐานเป็นอย่างไร กำลังคนมีความพร้อมแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างบุคลากร จากการประชุมร่วมกับสถาบันการศึกษาไทย 5 แห่ง พบว่ากำลังร่วมกับ Huawei ในการสร้างบุคลากรด้านดิจิทัลและไอที
“โดย 5G Academy จะปักหลักที่ EEC เพื่อสร้างและพัฒนาบุคลากรด้านนี้โดยเฉพาะ โดยเสนอแนะว่าควรจะจัดตั้งและเป็นพี่เลี้ยงให้กับ Tech Startup ที่ Thailand Cyberport ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ EECi หากสำเร็จได้เร็วก็จะช่วยเร่งการพัฒนาบุคลากรด้านนี้ของไทยออกสู่ตลาดได้เร็วมากขึ้นด้วย” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวทิ้งท้าย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: