การแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลกรายการโททาล บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิปส์ 2019 ที่บาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รอบชิงชนะเลิศ ประเภทคู่ผสม ในวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมือ 4 ของโลก ที่พาไทยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแบดมินตันชิงแชมป์โลกประเภทนี้ได้เป็นครั้งแรก ลงสนามพบกับ เจิ้งซีเหว่ย กับ หวงย่าเฉียง คู่มือ 1 ของโลก และมือวางอันดับ 1 ของรายการ จากประเทศจีน
แต่ผลการแข่งขันปรากฏว่า คู่มือ 1 ของโลกจากจีน โชว์ฟอร์มเหนือกว่า เอาชนะคู่ผสมจากไทยไป 2 เกมรวด 21-8 และ 21-12 ใช้เวลาแข่งขันทั้งหมด 36 นาที คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ไปครองได้สำเร็จ
ขณะที่บาสและปอป้อสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญเงินแรกให้กับไทยในประเภทคู่ผสมของศึกชิงแชมป์โลก บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิปส์ ได้สำเร็จ
หลังการแข่งขัน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า
“ทั้งบาสและปอป้อแสดงให้เห็นว่า พยายามสู้อย่างเต็มที่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ในช่วงนี้คู่แชมป์โลกจากจีนกำลังอยู่ในช่วงที่ทำผลงานได้อย่างสุดยอด แต่จากผลการแข่งขันในวันนี้ เชื่อว่า ทางบาสและปอป้อจะนำจุดบกพร่องในวันนี้มาปรับปรุงและแก้ไขเพื่อพัฒนาต่อไป โดยทั้งคู่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่โตเกียว ส่วนตัวยอมรับว่าเสียดาย แต่นั่นก็จะเป็นแรงผลักดันให้นักกีฬาไทยทุกคนได้มุ่งมั่นฝึกซ้อม เพื่อโอกาสที่เพิ่มสูงขึ้นในการลุ้นคว้าแชมป์ระดับนานาชาติต่อไป
“บาสและปอป้อได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการแบดมินตันไทย แม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ แต่ก็เป็นคู่ผสมไทยคู่แรกที่เข้าถีงรอบชิงฯ รายการนี้ และน่าจะบ่งบอกให้เราเห็นถึงสัญญาณที่ดีในโอกาสลุ้นคว้าเหรียญรางวัลในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 2020 ได้อย่างแน่นอน และขอให้แฟนกีฬาชาวไทยทุกคนร่วมส่งใจเชียร์กันต่อไป”
สำหรับนักแบดมินตันไทยจะเดินทางกลับถึงไทยเวลา 06.25 น. เที่ยวบินที่ TG921 สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ในวันอังคารที่ 27 สิงหาคมนี้