สื่อต่างประเทศอย่าง Wall Street Journal รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ มีความต้องการอยากที่จะลงทุน รวมถึงประเมินความเป็นไปได้ที่จะขอซื้อเกาะกรีนแลนด์ เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากรัฐบาลเดนมาร์ก ล่าสุด ทางการกรีนแลนด์ได้ออกมาแสดงความขอบคุณที่ผู้นำสหรัฐฯ สนใจที่จะลงทุนในดินแดนที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เช่นนี้ เราเปิดรับเรื่องการลงทุนทางธุรกิจเสมอ แต่เราไม่ได้มีไว้ขาย
ทางด้าน อายา เคมนิตซ์ ลาร์เซน สมาชิกสภาเดนมาร์กจากกรีนแลนด์ เผยว่า ชาวกรีนแลนด์ส่วนใหญ่น่าจะยังอยากอยู่กับเดนมาร์กต่อไป แม้ว่าจะได้รับอนุญาตหรือมีเสียงสนับสนุนให้ประกาศเอกราชก็ตาม ซึ่งมีคนจำนวนหนึ่งตั้งคำถามว่า กรีนแลนด์จะอยู่รอดในฐานะประเทศเอกราชได้หรือไม่ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเดนมาร์กแล้ว โดยชี้ว่า การคงความสัมพันธ์กับเดนมาร์กไว้ ก็อาจจะดีกว่าการมีความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ เพราะถ้าหากกรีนแลนด์ถูกสหรัฐฯ ซื้อไป ระบบสวัสดิการต่างๆ ที่เคยได้รับ อาจส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อสังคมในกรีนแลนด์
ปัจจุบันกรีนแลนด์ถือเป็นเขตปกครองตนเองของเดนมาร์ก มีเนื้อที่ราว 2 ล้านตารางกิโลเมตร โดยพื้นที่กว่า 80% ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง และมีประชากรอาศัยอยู่ราว 56,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่บริเวณเมืองนุก ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของกรีนแลนด์
โดยเมื่อปี 1803 สหรัฐอเมริกาเคยซื้อดินแดนลุยเซียนาจากฝรั่งเศสในราคาประมาณ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังเคยซื้ออะแลสกาต่อจากรัสเซียเมื่อปี 1867 ในราคาราว 7.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงยังเคยขอซื้อต่อเกาะ Danish West Indies ในปี 1917 จากเดนมาร์ก ซึ่งต่อมาได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น US Virgin Islands
ภาพ: Jonas Tufvesson / Shutterstock
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: