วันนี้ (31 ก.ค.) ธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และประธานคณะทำงานศึกษาการออกสลากรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสลากมีมติเห็นชอบเลือกรูปแบบการออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือ สลากภาพ 12 นักษัตร ที่มีราคาขาย 50 บาทต่อรายการ และมีเงินรางวัลสูงสุดต่องวดที่ 311,040 บาท กรณีถูก 4 ภาพตรง (ตรงภาพ-ตรงหลัก) เท่านั้น
ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมียอดขายที่ 1,036,800 บาทต่องวด เพื่อช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา รวมถึงแก้ปัญหาการเติบโตของหวยใต้ดิน และการพนันผ่านมือถือที่มีอัตราการจ่าย 1 ต่อ 7,000 ที่พบเห็นเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน ส่วนประเด็นในข้อกฎหมายยังคงต้องหารือกฤษฎีกาหรือหน่วยงานด้านกฎหมายอื่นๆ
โดยก่อนหน้านี้คณะทำงานศึกษาการออกสลากรูปแบบใหม่ ได้วิเคราะห์ถึงรูปแบบเกมสลากจากประเทศต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีอยู่ 5 รูปแบบ ได้แก่
1. สลากแบบดั้งเดิม หรือสลากใบ
2. สลากแบบตัวเลข
3. สลากขูด
4. สลาก LOTTO
5. สลากกีฬา
และเมื่อจำแนกออกมาได้ทั้ง 5 ประเภททำให้พบว่า รูปแบบสลากสำหรับการเสี่ยงโชคต่างๆ ที่จะนำมาใช้ต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักคือ เป็นทางเลือกเพิ่มขึ้นให้กับผู้ต้องการเสี่ยงโชคถูกกฎหมายนอกเหนือจากการซื้อสลากกินแบ่ง
สำหรับสลากแบบรูปภาพ ‘12 นักษัตร’ นี้ มี 4 หลักวิธีเล่นให้เลือก 1 ภาพต่อ 1 หลักจาก 12 ภาพนักษัตร ซึ่งมีรางวัลตรงและโต๊ด โดยข้อดีของสลากประเภทนี้คือ สามารถเลือกภาพได้ตามความต้องการ ไม่มีปัญหาเรื่องตัวเลขที่ไม่ได้รับความนิยมหรือเลขเน่า อีกทั้งเป็นเกมใหม่ที่เน้นการเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน ไม่อิงผลการออกรางวัลสลากแบบเดิม ขณะที่ข้อด้อยคือไม่มีรางวัลแจ็กพอต อาจไม่จูงใจให้มีผู้ซื้อมากพอ
โดยคณะทำงานฯ ได้มีความเห็นเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า รูปแบบสลากรูปภาพ 12 นักษัตร หรือ Picture 12 มีความเหมาะสมกับสภาพสังคมไทยและสอดคล้องกับพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
สำหรับการออกรางวัลสลากรูปภาพนี้ จะออกรางวัลในวันที่ 11 และ 16 แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่อย่างใด และมีการจำกัดผู้ซื้อด้วยเงื่อนไขต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้ซื้อจะต้องลงทะเบียนด้วยบัตรประจำตัวประชาชน และจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ซื้อ และต้องเป็นผู้รับรางวัลด้วยตนเอง ส่วนประเด็นของตัวแทนจัดจำหน่ายช่องทางอื่นยังคงอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม สลากในรูปแบบดังกล่าวจะออกมาโดยคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญ แต่ยังคงให้ความเป็นธรรมและเปิดโอกาสให้ผู้ค้ารายย่อยและผู้พิการเข้าถึงการจำหน่ายสลากในรูปแบบใหม่ด้วย พร้อมทั้งต้องจัดทำร่างประกาศ/ร่างกฎกระทรวง ให้มีความสอดคล้องและเป็นไปตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จากนั้นให้รับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และศึกษาผลกระทบทางสังคมตามมาตรา 13(7/1) เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการสลากฯ พิจารณาอีกครั้ง หากได้รับความเห็นชอบจะได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า